แนวหนัง : ชีวิต จินตนาการ วิทยาศาสตร์
ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก
บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)
ในอนาคต โลกขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก มนุษย์ได้ค้นพบหินแร่ชนิดหนึ่งบนดวงจันทร์ ซึ่งได้กักเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์เอาไว้ และ เมื่อสกัดออกมา จะได้เป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่เรียกว่า ฮีเลี่ยม-๓ จึงมีการใช้เครื่องเก็บเกี่ยวทำการเก็บ และ สกัดหินชนิดนี้บนดวงจันทร์ แล้วส่งมายังโลก โดยมีบริษัท ลูน่า อินดัสตรี้ (Lunar Industries) เป็นผู้ที่ผูกขาดสัมปทานแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
แซม เบล พนักงานของ ลูน่า อินดัสตรี้ เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ต้องทำงานอยู่บนดวงจันทร์ ภายในฐานปฏิบัติการแบบอัตโนมัติ "ซาราง" โดยมีหุ่นยนต์ "เกอร์ตี้" ผู้ช่วยประจำฐานฯ คอยให้ความช่วยเหลือในทุกๆด้าน อีกเพียงแค่ ๒ สัปดาห์ ก็จะครบกำหนดสัญญาจ้าง ๓ ปี เขาดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน ได้ไปอยู่กับ ภรรยา และ ลูกสาว บนโลกอย่างมีความสุข
ตลอดเวลาเกือบ ๓ ปี แซม ไม่สามารถพูดโต้ตอบกับคนบนโลกแบบการถ่ายทอดสดได้ เพราะอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมขัดข้อง ซึ่งทางบริษัทฯก็ไม่มีแผนที่จะซ่อมให้ จึงทำได้เพียงการสื่อสารผ่านทางวิดีโอเทปเท่านั้น ในตอนนี้ เขาเริ่มไม่ค่อยสบาย เห็นภาพหลอนของหญิงสาววัยรุ่นนั่งอยู่ในฐานฯ และ ในระหว่างการเดินทางจากฐานฯ ไปยังเครื่องเก็บเกี่ยว แซมเห็นภาพหลอนของคน ยืนอยู่ใกล้เครื่องเก็บเกี่ยว เขาจึงเสียสมาธิ จนขับรถไปชนเข้ากับเครื่องเก็บเกี่ยว บาดเจ็บ และ หมดสติไป
แซม ตื่นขึ้นมาบนเตียงพยาบาลในฐานฯ เกอร์ตี้บอกแต่เพียงว่า เขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้สูญเสียความทรงจำบางส่วน แต่เขาเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง เมื่อเขาแอบไปได้ยิน เกอร์ตี้ กำลังพูดโต้ตอบกับผู้บริหารของ ลูน่า อินดัสตรี้ ซึ่งอยู่บนโลก อีกทั้ง เกอร์ตี้ ยังได้รับคำสั่ง ห้ามไม่ให้เขาออกไปภายนอกฐานฯอีกด้วย หลังจากนั้น เขาก็ได้รับข้อความจากผู้บริหารฯว่า ได้ส่งทีมกู้ภัยมา เพื่อซ่อมแซมเครื่องเก็บเกี่ยว
แซม แอบทำให้ท่อส่งแก๊สรั่ว โดยอ้างว่า อาจมีสะเก็ดอุกาบาตตกลงมาโดนฐานฯ เพื่อให้ เกอร์ตี้ ยอมให้เขาออกไปตรวจดูภายนอก ก่อนออกไป เขาพบว่า ชุดอวกาศได้หายไป ๑ ชุด เมื่อได้ออกไปภายนอกฐานฯ เขาก็รีบขับรถตรงไปยังเครื่องเก็บเกี่ยวที่เสียหาย และ ได้พบชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาเหมือนเขา สลบอยู่ในรถที่เกิดอุบัติเหตุ จึงรีบช่วยพาชายคนนั้นกลับไปยังฐานฯ
ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก
บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)
ในอนาคต โลกขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก มนุษย์ได้ค้นพบหินแร่ชนิดหนึ่งบนดวงจันทร์ ซึ่งได้กักเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์เอาไว้ และ เมื่อสกัดออกมา จะได้เป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่เรียกว่า ฮีเลี่ยม-๓ จึงมีการใช้เครื่องเก็บเกี่ยวทำการเก็บ และ สกัดหินชนิดนี้บนดวงจันทร์ แล้วส่งมายังโลก โดยมีบริษัท ลูน่า อินดัสตรี้ (Lunar Industries) เป็นผู้ที่ผูกขาดสัมปทานแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
แซม เบล พนักงานของ ลูน่า อินดัสตรี้ เป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ต้องทำงานอยู่บนดวงจันทร์ ภายในฐานปฏิบัติการแบบอัตโนมัติ "ซาราง" โดยมีหุ่นยนต์ "เกอร์ตี้" ผู้ช่วยประจำฐานฯ คอยให้ความช่วยเหลือในทุกๆด้าน อีกเพียงแค่ ๒ สัปดาห์ ก็จะครบกำหนดสัญญาจ้าง ๓ ปี เขาดีใจมากที่จะได้กลับบ้าน ได้ไปอยู่กับ ภรรยา และ ลูกสาว บนโลกอย่างมีความสุข
ตลอดเวลาเกือบ ๓ ปี แซม ไม่สามารถพูดโต้ตอบกับคนบนโลกแบบการถ่ายทอดสดได้ เพราะอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมขัดข้อง ซึ่งทางบริษัทฯก็ไม่มีแผนที่จะซ่อมให้ จึงทำได้เพียงการสื่อสารผ่านทางวิดีโอเทปเท่านั้น ในตอนนี้ เขาเริ่มไม่ค่อยสบาย เห็นภาพหลอนของหญิงสาววัยรุ่นนั่งอยู่ในฐานฯ และ ในระหว่างการเดินทางจากฐานฯ ไปยังเครื่องเก็บเกี่ยว แซมเห็นภาพหลอนของคน ยืนอยู่ใกล้เครื่องเก็บเกี่ยว เขาจึงเสียสมาธิ จนขับรถไปชนเข้ากับเครื่องเก็บเกี่ยว บาดเจ็บ และ หมดสติไป
แซม ตื่นขึ้นมาบนเตียงพยาบาลในฐานฯ เกอร์ตี้บอกแต่เพียงว่า เขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้สูญเสียความทรงจำบางส่วน แต่เขาเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง เมื่อเขาแอบไปได้ยิน เกอร์ตี้ กำลังพูดโต้ตอบกับผู้บริหารของ ลูน่า อินดัสตรี้ ซึ่งอยู่บนโลก อีกทั้ง เกอร์ตี้ ยังได้รับคำสั่ง ห้ามไม่ให้เขาออกไปภายนอกฐานฯอีกด้วย หลังจากนั้น เขาก็ได้รับข้อความจากผู้บริหารฯว่า ได้ส่งทีมกู้ภัยมา เพื่อซ่อมแซมเครื่องเก็บเกี่ยว
แซม แอบทำให้ท่อส่งแก๊สรั่ว โดยอ้างว่า อาจมีสะเก็ดอุกาบาตตกลงมาโดนฐานฯ เพื่อให้ เกอร์ตี้ ยอมให้เขาออกไปตรวจดูภายนอก ก่อนออกไป เขาพบว่า ชุดอวกาศได้หายไป ๑ ชุด เมื่อได้ออกไปภายนอกฐานฯ เขาก็รีบขับรถตรงไปยังเครื่องเก็บเกี่ยวที่เสียหาย และ ได้พบชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาเหมือนเขา สลบอยู่ในรถที่เกิดอุบัติเหตุ จึงรีบช่วยพาชายคนนั้นกลับไปยังฐานฯ
แซม ได้ถามเกอร์ตี้ว่า ชายคนที่เขาช่วยมานั้นเป็นใคร เกอร์ตี้ตอบแต่เพียงว่า เขาทั้งคู่คือ แซม เบล ในตอนนี้แซมทั้งสองคนต่างก็คิดว่า อีกคนคือ มนุษย์โคลน ที่ถูกโคลนนิ่งมาจากตัวเขาเอง ในขณะที่ร่างกายของแซม(๑) ซึ่งถูกช่วยมาจากอุบัติเหตุ กำลังทรุดโทรมลงเรื่อยๆ แซม(๒)ก็เริ่มสงสัยว่า ทั้งคู่อาจเป็นโคลนก็ได้ และ น่าจะมีร่างโคลนซ่อนอยู่ในฐานฯอีกเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่เช่นนั้น เมื่อแซม(๑)ประสบอุบัติเหตุ ทำไมจึงสามารถส่งแซม(๒)มาถึงได้อย่างรวดเร็วผิดปกติ แต่แซม(๑)ยังไม่เชื่อเช่นนั้น
แซม(๒) เล่าให้แซม(๑)ฟังว่า เขาแอบได้ยินเกอร์ตี้พูดโต้ตอบกันในทันทีกับผู้บริหารฯ ทั้งสองคนจึงตกลงที่จะช่วยกัน ค้นหาความจริงในเรื่องนี้ ทั้งคู่ขับรถออกไปคนละทาง ไปจนไกลกว่าที่เคยไปทุกครั้ง จนกระทั่งได้พบกับเสาที่ใช้ตัดสัญญาณสื่อสาร ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถพูดโต้ตอบกับคนบนโลกโดยตรงได้ ทั้งคู่เพิ่งรู้ว่า ถูกบริษัทฯหลอกมาโดยตลอด ในเวลานั้นเอง แซม(๑)รู้สึกไม่สบายมาก จึงรีบกลับฐานฯก่อน
แซม(๑) มีร่างกายที่ทรุดโทรมลงทุกวัน ในขณะที่เขากำลังบันทึกเทปตามปกติ ก็มีภาพของคนที่หน้าตาเหมือนเขาอีกคน โผล่แว็บขึ้นมาบนจอภาพเพียงชั่วครู่ เขาจึงพยายามป้อนรหัสผ่านคอมพิวเตอร์ เพื่อเปิดดูเทปเก่าๆของคนที่เคยอยู่ก่อนหน้าเขา แต่ก็ไม่สำเร็จ ทันใดนั้นเอง เกอร์ตี้ ก็เข้ามาป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องให้ ทำให้แซม(๑)ได้เห็นว่า ทุกคนที่อยู่ฐานฯมาก่อนหน้าเขา ล้วนมีหน้าตาเหมือนเขาทุกคน แถมทุกคนยังดูเหมือนคนป่วยหนัก ก่อนที่จะลงไปนอนในยานสำหรับส่งตัวกลับไปยังโลก ซึ่งที่จริงแล้วมันคือ โลงศพ สำหรับสลายร่างโคลนที่หมดอายุแล้ว สัญญาจ้างงาน ๓ ปี ที่แท้ก็คือ อายุการใช้งานของโคลนนั่นเอง
เกอร์ตี้ ยังได้เปิดเผยความจริงเพิ่มเติมอีกว่า แซมทั้งสองคนต่างก็เป็นโคลน ที่ถูกปลูกถ่ายความทรงจำ ให้เหมือนกับแซมตัวจริงทุกอย่าง เพื่อที่จะใช้ทำงานบนดวงจันทร์เท่านั้น โดยทุกๆ ๓ ปี เกอร์ตี้ จะต้องปลุกโคลนใหม่ขึ้นมาทำงานแทนโคลนเก่าที่หมดอายุลง แซม(๑)จึงค้นหาที่ซ่อนร่างโคลนทั้งหมด จนได้พบห้องลับขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ด้านล่างใต้โลงศพ และ เมื่อแซม(๒)กลับมาถึงฐานฯ แซม(๑)ก็ได้เล่าความจริงที่เพิ่งค้นพบให้ฟัง แล้วพากันลงไปดูห้องลับ ทั่งคู่พบกับร่างโคลนจำนวนมากมาย ที่ยังอยู่ในสภาพจำศีล
ความจริงที่ได้รับรู้ ทำให้แซม(๑) ซึ่งก็คือ แซม(๕) หรือ โคลนหมายเลข ๕ รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ผิดหวัง และ เสียใจอย่างที่สุด เขาขับรถออกไปนอกระยะของเสาที่ใช้ตัดสัญญาณสื่อสาร แล้วติดต่อไปยังบ้าน ที่เขาเคยคิดว่าจะได้กลับไป เขาได้คุยแบบเห็นหน้ากับลูกสาววัย ๑๕ ปี ที่ยังอาศัยอยู่กับแซมตัวจริง จึงได้รู้ว่า ภรรยาของแซม คนที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดนั้น ได้ตายไปแล้ว และ เมื่อแซม(๕)กลับมายังฐานฯแล้ว แซม(๒) ซึ่งก็คือ แซม(๖) หรือ โคลนหมายเลข ๖ ก็ได้แอบเปิดดูวีดีโอบันทึกการสนทนานั้น จึงได้รู้ความจริงเช่นกัน
ในขณะที่ ทีมกู้ภัย กำลังใกล้จะมาถึง แซมทั้งสองรู้ตัวดีว่า ไม่ปลอดภัยแน่ ถ้าทีมกู้ภัยมาเห็นทั้งคู่มีชีวิตอยู่พร้อมกัน แซม(๖)จึงขอร้องให้เกอร์ตี้ ปลุกโคลนใหม่ขึ้นมาอีก ๑ คน โดยวางแผนให้แซม(๕)เข้าไปซ่อนในยานขนส่งฮีเลี่ยม-๓ เพื่อจะได้กลับสู่โลก แล้วค่อยจัดการเอาแซม(๗) ใส่เข้าไปในโลงศพแทน แต่แซม(๕)รู้ตัวดีว่า จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน จึงขอให้แซม(๖)เปลี่ยนแผน โดยให้พาแซม(๕)ไปทิ้งไว้ที่เดิม ที่เกิดอุบัติเหตุ แล้วแซม(๖)ค่อยเข้าไปซ่อนในยานขนส่งฯแทน
ก่อนที่แซม(๖)จะออกเดินทางสู่โลก เกอร์ตี้ได้บอกให้แซม(๖)ทำการรีเซ็ทเครื่อง เพื่อลบหน่วยความจำของเกอร์ตี้ ทีมกู้ภัยก็จะไม่สามารถดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ นอกจากนั้น แซม(๖)ยังได้เปลี่ยนเส้นทางของเครื่องเก็บเกี่ยว ให้พุ่งเข้าชนเสาที่ใช้ตัดสัญญาณสื่อสาร เพื่อที่แซม(๗)จะได้สามารถติดต่อกับคนบนโลกได้ทันที และ เมื่อแซม(๖)เดินทางไปถึงโลก เขาก็ได้เปิดโปงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นบนดวงจันทร์ ให้ชาวโลกได้รับรู้
แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์ ค่าย MVD ภาพคมชัด เสียงดี แต่สำหรับเครื่องเล่นบางรุ่น อาจต้องใส่แผ่นหลายรอบจึงจะเล่นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น