วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

Star Trek (2009)



แนวหนัง : วิทยาศาสตร์ บู๊ ผจญภัย

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างปานกลาง (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ยานอวกาศของสหพันธ์ ยูเอสเอส เคลวิน กำลังตรวจสอบ พายุฟ้าคะนองในอวกาศ แต่แล้วก็มียานอวกาศลึกลับ ที่มีขนาดใหญ่กว่าหลายสิบเท่า โผล่ออกมาโจมตี ยูเอสเอส เคลวิน จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตัวแทนของยานลึกลับ ซึ่งเป็นชาวโลมูรัน ได้เรียกร้องแกมบังคับให้ กัปตันยานเคลวิน ต้องไปเจรจาเพียงลำพัง เขาถูกถามถึงท่านทูต สป็อค ซึ่งเขาไม่รู้จัก และ ถามวันที่ดวงดาวในขณะนั้น แล้วเขาก็ถูก นีโร กัปตันยานชาวโลมูลัส สังหารในทันที

     จอร์จ ที. เคิร์ก จึงต้องทำหน้าที่กัปตันยานเคลวิน สั่งอพยพลูกเรือ ที่เหลืออยู่ทั้งหมด รวมทั้งภรรยาของเขา ซึ่งกำลังใกล้จะคลอดลูกด้วย จากนั้น จอร์จ ก็ระดมยิงสกัด เพื่อถ่วงเวลาให้ลูกเรือหนีได้ทัน แล้วเขาก็ขับยานเคลวิน พุ่งเข้าชนยานของนีโร ก่อนจะถึงวินาทีสุดท้าย เขาได้ตั้งชื่อลูกชาย ที่เพิ่งคลอดออกมาว่า จิม (เจมส์ ที. เคิร์ก)

     สป็อค เด็กชายลูกครึ่งชาวดาววัลแคน ซึ่งมีพ่อเป็นชาววัลแคน แต่มีแม่เป็นมนุษย์จากดาวโลก แม้เขาจะมีความฉลาด ไม่น้อยไปกว่า เด็กๆชาววัลแคนคนอื่นๆ แต่เขาก็มักจะถูกเพื่อนๆ พูดจาดูถูกเหยียดหยาม เกี่ยวกับแม่ของเขาอยู่เสมอ ทำให้เขาต้องมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนๆ ซึ่งผิดกับชาววัลแคนแท้ๆ ที่ไม่ค่อยมีอารมณ์รุนแรง เหมือนกับมนุษย์โลก

     จิม ใชัชีวิตอยู่บนดาวโลก แบบเด็กกำพร้าที่มีปัญหา จนโตเป็นหนุ่ม แล้วในวันหนึ่ง เขาก็ได้จีบสาวในผับ จนมีเรื่องชกต่อยกับ เหล่านักศึกษาวิชาทหาร สตาร์ฟลีท จนกัปตันไพค์ เข้ามาห้าม แล้วเตือนสติ จิม พร้อมกับพูดยกย่อง วีรกรรมที่พ่อของเขา เคยเสียสละชีวิตตัวเอง เพื่อช่วยคนจำนวนมากมาย ให้รอดชีวิต รวมทั้งตัวเขาเองด้วย กัปตันไพค์ ยังได้บอกให้ จิม ไปสมัครเข้าสตาร์ฟลีทด้วย ซึ่งเขาก็ได้ไปสมัครในวันรุ่งขึ้น และ เป็นเพื่อนกับหมอ แม็คคอย ที่เพิ่งมาสมัครเข้า สตาร์ฟลีท เหมือนกัน

     ๓ ปีต่อมา จิม สอบผ่านข้อสอบที่ยากมากๆ ซึ่งออกแบบโดย สป็อค เขาจึงถูกสอบสวน และ ตั้งข้อหาโกงการสอบ จนถูกสั่งพักงาน หมอแม็คคอย จึงออกอุบายช่วยเพื่อน ด้วยการฉีดยา ที่ทำให้จิมป่วย แล้วพาขึ้นยาน เอ็นเตอร์ไพรซ์ ในฐานะคนไข้ ในความรับผิดชอบของ หมอแม็คคอย

     กัปตันไพค์ นำยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ มุ่งหน้าไปยังดาววัลแคน ตามคำร้องขอความช่วยเหลือ จิม ได้ยินรายงานเกี่ยวกับ พายุฟ้าคะนองในอวกาศ เขาจึงรู้ว่า มันเป็นกับดัก เขาจึงรีบไปบอกกัปตันไพค์ เมื่อเดินทางไปถึง พวกเขาก็พบว่า ยานลำอื่นๆได้ถูก ยานของชาวโรมูลัส ทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว นีโร ได้สั่งให้กัปตันไพค์ ออกไปเจรจาเพียงลำพัง ไพค์ จึงสั่งให้ สป็อค เป็นกัปตันแทน และ สั่งให้ จิม กับลูกเรืออีก ๒ คน แอบกระโดดจากกระสวยอวกาศ ลงไปบนดาววัลแคน แม้จะมีลูกเรือพลาดตกเลยเป้าหมาย เสียชีวิตไป ๑ คน แต่จิมกับลูกเรืออีกคน ก็สามารถต่อสู้จนชนะ และ ทำลายเครื่องขัดขวางระบบสื่อสารของโรมูลัสได้สำเร็จ นีโร จับตัวไพค์เอาไว้ แล้วสั่งการให้ทิ้ง สารแดงสร้างหลุมดำ ลงไปยังใจกลางดาววัลแคน จิมกับลูกเรืออีกคน ถูกลำแสงขนส่ง บีมกลับขึ้นไปสู่ ยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ สป็อค บีมลงไปเพื่อช่วย เหล่าผู้อาวุโสในสภา รวมทั้งพ่อ และ แม่ของเขาด้วย แต่เขาก็ช่วยแม่ไม่ทัน แล้วยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ ก็วาร์ปหนีไป ก่อนที่ดาววัลแคน จะถูกหลุมดำดูดกลืนเข้าไปทั้งดวง


     จิม ต้องการช่วยไพค์ และ ต่อสู้กับโรมูลัส จึงทะเลาะกับสป็อค จนถูกขับไล่ ส่งออกจากยาน ไปตกลงบนดาวเวก้า จิม จึงได้พบกับ สป็อคในวัยชรา ผู้มาจากอนาคต ท่านทูตสป็อค ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตว่า เกิดซูปเปอร์โนว่าขึ้น ท่านทูตสป็อค ได้รับปากที่จะช่วยดาวโรมูลัส แต่แล้วเขาก็ช่วยไม่ทัน เขาจึงยิง สารแดงสร้างหลุมดำ ใส่ซูปเปอร์โนว่านั้น ด้วยความแค้นที่ต้องสูญเสียดวงดาว และ คนรักไป นีโร จึงตามจับสป็อค แต่ทั้ง ๒ ฝ่าย ต่างก็ถูกหลุมดำ ดูดเข้าไปโผล่ในอดีต ยานของนีโร ได้มาถึงอดีตก่อนยานของสป็อค ๒๕ ปี และ รอดักจับสป็อคเอาไว้ แล้วก็ทิ้งสป็อคไว้บนดาวเวก้า เพื่อให้ดูดาววัลแคนแตกสลาย ท่านทูตสป็อค พาจิมไปหาคนที่จะช่วยพาเขา กลับขึ้นยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ พวกเขาได้พบวิศวกร ที่สามารถคิดค้นวิธี บีมขึ้นยานที่กำลังวาร์ปอยู่ได้ ท่านทูตสป็อค ได้แนะนำบางอย่างแก่จิม ก่อนที่จะต้องแยกกัน

     เมื่อจิมกับวิศวกร บีมขึ้นยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ได้แล้ว จิมก็พูดยั่วโมโหจน สป็อค ลงมือทำร้ายเขา ทำให้สป็อค ต้องปลดตัวเอง ออกจากหน้าที่กัปตัน เพราะอารมณ์ไม่มั่นคง จิม จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นกัปตันแทน จากนั้น เขาก็สั่งนำยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ ให้ตามยานของนีโรไป จิมกับสป็อค แอบบีมเข้าสู่ยานของนีโร จนเกิดการต่อสู้กัน นีโร เริ่มโจมตีโลก โดยใช้เครื่องยิงลำแสงขุดเจาะ เข้าไปยังใจกลางโลก ในขณะที่ จิม กำลังต่อสู้กับนีโร และ ลูกน้อง สป็อค ได้แอบขับยานลำเล็กออกไป ซึ่งก็คือ ยานของท่านทูตสป็อคนั่นเอง แล้วระเบิดแท่นขุดเจาะ หลังจากนั้น ก็ขับยานวาร์ปหนี เพื่อล่อให้ยานของนีโร วาร์ปตามไปด้วย

     จิม สามารถช่วยกัปตันไพค์ได้ สป็อค ก็ขับยานที่มี สารแดงสร้างหลุมดำ พุ่งเข้าหายานของนีโร ทันใดนั้นเอง ยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ ก็ตามมาถึง และ บีมรับ จิม ไพค์ และ สป็อค กลับขึ้นยานทันเวลาพอดี เมื่อยานของท่านทูตสป็อค ชนเข้ากับยานของนีโร จึงเกิดหลุมดำ ดูดกลืนยานของนีโร เข้าไปทั้งลำ จิม ก็รีบนำยานเอ็นเตอร์ไพรซ์ วาร์ปหนีออกมาได้ทัน เขาจึงได้รับเหรียญสดุดี และ ได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นกัปตัน อย่างเป็นทางการ

หนัง
แผ่น : DVD ลิขสิทธิ์ ค่าย MVD ภาพคมชัด เสียงดี

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

The Adventures of Tintin: The Secret of the Unicorn



แนวหนัง : การ์ตูน ครอบครัว จินตนาการ ผจญภัย

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ตินติน นักข่าวพิเศษหนุ่มวัยรุ่น ได้พบเรือยูนิคอร์นจำลอง ซึ่งเป็นเรือในตำนาน ในขณะที่เขากำลังเดินอยู่ในตลาดนัด กับสโนวี่ สุนัขคู่ใจของเขา เขาจึงรีบซื้อเอาไว้ ก่อนที่จะมีชายแปลกหน้า ๒ คน มาขอซื้อต่อจากเขา แต่เขาก็ไม่ยอมขายให้ใคร เมื่อกลับถึงบ้าน ตินติน ก็วางเรือยูนิคอร์นจำลอง ไว้บนหลังตู้ แต่แล้ว สโนวี่ ก็วิ่งไล่ตามแมวจนชน เรือยูนิคอร์นจำลอง ตกลงพื้น เสากระโดงเรือหัก มีท่อโลหะเล็กๆหล่นออกมาจากเสา กลิ้งเข้าไปใต้ตู้ แต่ ตินติน ไม่ทันเห็น




     หลังจากนั้น ตินติน ก็ไปห้องสมุด เพื่อค้นหาประวัติของเรือ ซึ่งมีความลับซ่อนอยู่ มีเพียงสายเลือดของตระกูล แฮดด็อก เท่านั้น ที่สามารถจะไขความลับนั้นได้ แต่เมื่อ ตินติน กลับเข้าบ้านอีกครั้ง เขาก็พบว่า เรือยูนิคอร์นจำลอง ได้ถูกขโมยไปเสียแล้ว เขาจึงไปที่คฤหาสน์ของตะกูล แฮดด็อก ซึ่งตกเป็นของ แซ็คคารีน ชายคนที่ ๒ ที่เคยขอซื้อเรือยูนิคอร์นจำลองจากเขา ตินติน ได้พบเรือยูนิคอร์นจำลองที่นั่น แต่เสากระโดงเรือไม่หัก เพราะเป็นคนละลำกัน แซ็คคารีน จับตินตินได้ แล้วจึงไล่ให้กลับออกไป

     เมื่อ ตินติน กลับถึงบ้าน ก็พบว่า ข้าวของในบ้านถูกรื้อค้น จนกระจัดกระจายเต็มไปหมด สโนวี่ เห่าเรียกตินติน แล้วเขาก็ได้พบท่อโลหะเล็กๆ ที่ตกอยู่ใต้ตู้ ซึ่งมีกระดาษที่เขียนบทกวีปริศนา ซ่อนเอาไว้อยู่ภายใน เขาจึงพับกระดาษเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ ทันใดนั้น ชายคนแรกที่เคยขอซื้อเรือยูนิคอร์นจำลอง ก็มาหาเขาที่หน้าบ้าน เพื่อจะเตือนอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันไร เขาก็ถูกยิงล้มลงเสียก่อน ก่อนจะหมดลมหายใจ ชายคนนั้นก็ได้ใช้เลือดของเขา ป้ายตัวหนังสือบนหนังสือพิมพ์เอาไว้ เป็นข้อความ ว่า คาราบูจัน แล้วตำรวจนักสืบคู่หูที่มีชื่อเดียวกัน ก็มายังที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐาน และ พูดคุยกับตินติน พอนักสืบกำลังจะกลับ ก็มีนักล้วงกระเป๋า พยายามขโมยกระเป๋าของนักสืบ แม้จะทำไม่สำเร็จ แต่นักล้วงกระเป๋า ก็ได้ขโมยกระเป๋าสตางค์ของตินตินไปแทน



     หลังจากนั้น ก็มีชาย ๓ คน มาจับตินตินใส่ลงไปในกล่องไม้ แล้วนำไปขึ้นเรือคาราบูจัน สโนววี่ ก็รีบวิ่งตามไปจนขึ้นเรือได้ทัน เมื่อ ตินติน ฟื้นขึ้นมาในกรงขัง แซ็คคารีน ก็ถามถึงกระดาษ ที่อยู่ในเสากระโดงเรือยูนิคอร์นจำลอง ตินติน บอกว่า มันไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว พอลูกสมุนของแซ็คคารีนเผลอ สโนวี่ ก็แอบเข้าไปช่วยกัดเชือกที่มัด ตินติน เอาไว้ เมื่อออกจากกรงได้ เขาก็ล็อคประตูห้อง แล้วหนีออกทางหน้าต่าง ปีนเชือกขึ้นไปยังห้องที่อยู่ด้านบน ซึ่งเป็นห้องของกัปตัน ที่ถูกยึดเรือไป

     เมื่อได้ทำความรู้จักกันแล้ว ตินติน และ กัปตันแฮดด็อก ก็หาทางหนีไปด้วยกัน ตินติน ถามเรื่องความลับของเรือยูนิคอร์น แฮดด็อก บอกว่า เขาเป็นคนสุดท้ายของตะกูล แต่หลังจากที่ปู่ของเขาเสีย เขาก็เอาแต่เมาเหล้า จนลืมความลับนั้นไปหมดแล้ว ตินติน แอบเข้าไปในห้องส่งวิทยุ เขาพบเอกสารที่มีเงื่อนงำ ว่า ท่าเรือแบ็กกาห์ เขาแอบส่งสัญญาณวิทยุออกไป จนลูกสนุนของแซ็คคารีน มาพบเข้า จึงต่อสู้ และ ไล่ยิงกัน ตินติน แฮดด็อก และ สโนวี่ สามารถหนีลงเรือเล็กไปได้ โดยอาศัยความมืดเป็นตัวช่วย ตินติน บอกให้ แฮดด็อก พายเรือพากันไปที่ ท่าเรือแบ็กกาห์



     ระหว่างที่อยู่กลางทะเล ลูกสนุนของแซ็คคารีน ขับเครื่องบินตามมายิง ตินติน ยิงกระสุนนัดสุดท้าย ถูกเครื่องบิน จนต้องลงจอดบนผิวน้ำ ตินติน จับคนร้ายทั้ง ๒ คน มัดเอาไว้ท้ายเครื่องบิน แล้วก็ขับเครื่องบิน พาทุกคนไปยังจุดหมาย แต่ต้องฝ่าพายุฝนไป จนตกลงบนทะเลทราย คนร้ายทั้ง ๒ ได้กระโดดร่มหนีไปก่อนแล้ว ตินติน แฮดด็อก และ สโนวี่ จึงต้องเดินทางต่อไปในทะเลทราย ความร้อน และ ความอ่อนเพลีย ทำให้ แฮดด็อก เห็นภาพลวงตา ที่ผุดขึ้นมาจากความทรงจำ ที่บอกเล่าต่อๆกันมา เกี่ยวกับเรือยูนิคอร์น เขาเห็นภาพของ กัปตันฟรานซิส แฮดด็อก ล่องเรือยูนิคอร์น และ ต้องต่อสู้กับโจรสลัด เพื่อปกป้องสมบัติจำนวนมหาศาล ของพระราชา แต่พอ แฮดด็อก ได้สติกลับคืนมา ภาพลวงตานั้นก็หายไป



     สโนวี่ ไปตามคนมาช่วย ตินตินกับแฮดด็อก ซึ่งนอนหมดสติอยู่ เมื่อฟื้นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น แฮดด็อก จำเรื่องที่เกี่ยวกับ การผจญภัยของเขากับตินติน ไม่ได้เลย จนกระทั่ง สโนวี่ แอบคาบเหยือกแอลกอฮอล์ มาให้เขาดื่ม พอเริ่มเมาอีกครั้ง เขาก็เห็นภาพการต่อสู้ระหว่าง กัปตันฟรานซิส แฮดด็อก กับจอมโจรสลัด เรด เร็คแคม บนเรือยูนิคอร์น กัปตันฟรานซิส เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และ ถูกบังคับให้เปิดเผยที่ซ่อนสมบัติใต้เรือ เพื่อแลกกับชีวิตของลูกเรือ แต่แล้ว เรด เร็คแคม ก็ไม่รักษาสัญญา จับลูกเรือโยนถ่วงน้ำทั้งหมด กัปตันฟรานซิส จึงทำการระเบิดเรือ เพื่อไม่ให้ เรด เร็คแคม ได้สมบัติไป กัปตันฟรานซิส หนีรอดออกมาได้ทัน พร้อมกับสมบัติจำนวนหนึ่ง เรด เร็คแคม จึงตะโกนสาปแช่ง ตะกูลแฮดด็อก ก่อนจะจมลงไปพร้อมกับเรือยูนิคอร์น เมื่อความทรงจำกลับคืนมาแล้ว แฮดด็อก ก็รู้ทันที ว่า แซ็คคารีน เป็นเชื้อสายของ เรด เร็คแคม ซึ่งต้องการที่จะแก้แค้น ให้บรรพบุรุษของเขานั่นเอง



     ตินติน แฮดด็อก และ สโนวี่ ได้เดินทางไปจนถึงแบ็กกาห์ พวกขาได้พบกับนักสืบคู่หู ที่ได้รับสัญญาณวิทยุจากตินติน พร้อมกับนำกระเป๋าสตางค์ ที่ได้จากห้องของนักล้วงกระเป๋า มาคืนให้ตินตินด้วย ตินติน จึงได้ฝากกระดาษปริศนา เอาไว้กับแฮดด็อก หลังจากนั้น พวกเขาก็แงตัวเข้าไป ชมการแสดงโอเปร่า ที่จัดขึ้นในวัง ซึ่งมีเรือยูนิคอร์นจำลอง ของเจ้าผู้ครองนคร อยู่ในตู้กระจกกันกระสุน แฮดด็อก ทนฟังเสียงร้องโอเปร่าไม่ไหว จึงเดินออกมาเพียงลำพัง แล้วเขาก็ถูกลูกสมุนของแซ็คคารีน ฟาดจนสลบ แล้วชิงกระดาษไป ด้านภายในวัง เสียงร้องโอเปร่า ได้ทำให้ตู้กระจกกันกระสุน แตกกระจาย แซ็คคารีน จึงใช้ให้นกเหยี่ยวของเขา บินไปเอาท่อโลหะ จากเสากระโดงเรือยูนิคอร์นจำลอง มาให้เขา ก่อนจะรีบขึ้นรถหนีไป



     ตินติน รีบขับรถพ่วงพา แฮดด็อก และ สโนวี่ ตามไปติดๆ แฮดด็อก คว้าปืนบาซูก้ามาได้ แต่ยิงกลับหลัง ทำให้น้ำไหลทะลักออกจากเขื่อน พุ่งลงไปในเมืองที่อยู่ด้านล่าง หลังจากการไล่แย่งชิง กระดาษปริศนา กันจนชุลมุนวุ่นวาย ตินติน ก็จับเหยี่ยวได้ พร้อมกับกระดาษปริศนาทั้ง ๓ ชิ้น ซึ่งเมื่อนำมาซ้อนทับกัน ก็จะมองเห็นเป็นพิกัดของ เส้นรุ้งกับเส้นแวง แซ็คคารีนกับลูกสมุน จับตัวแฮดด็อก และ สโนวี่ โยนลงน้ำ ตินติน จึงต้องปล่อยเหยี่ยว เพื่อลงไปช่วยทั้งคู่ แซ็คคารีน จึงได้กระดาษปริศนาไปทั้งหมด



     ในขณะที่ ตินติน รู้สึกหมดหวัง คำพูดของ แฮดด็อก ก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ ว่า เขาเคยส่งสัญญาณวิทยุจากเรือคาราบูจัน ไปให้กับตำรวจอินเตอร์โพล จึงสามารถดักจับสัญญาณได้ ว่า เรือคาราบูจัน จะไปจอดที่ท่าเรือใด พวกเขาจึงไปดักจับ แซ็คคารีน พร้อมกับตำรวจ แต่ก็เกิดการต่อสู้กันระหว่าง แฮดด็อกกับแซ็คคารีน ทั้งคู่ใช้กลไกบังคับเครนยกของ ฟาดฟันกันจนพังระเนระนาด แล้วต่อด้วยการดวลดาบบนเรือ ตินติน ฉวยโอกาสที่ แซ็คคารีน กำลังขู่ แฮดด็อก ว่า จะเผากระดาษปริศนาทิ้ง จนสามารถแย่งชิงกระดาษไปได้ แล้วในที่สุด แซ็คคารีน ก็ถูกตำรวจจับกุมตัวไป



     ตินติน แฮดด็อก และ สโนวี่ ได้เดินทางตามพิกัด ที่ได้จากกระดาษปริศนา จนไปถึงคฤหาสน์ตะกูลแฮดด็อก สโนววี่ ค้นพบห้องลับที่ซ่อนอยู่ หลังกำแพงห้องใต้ติน เมื่อทุบกำแพงออก ก็พบว่า ในห้องลับนั้น มีลูกโลกแผนที่ตั้งอยู่ แฮดด็อก ดูแผนที่แล้วรู้ทันที ว่า มีเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง ซึ่งไม่มีอยู่จริง ตินติน จึงคิดออกว่า ผู้ที่เป็นสายเลือดของแฮดด็อกเท่านั้น ที่จะรู้ว่า เกาะนั้นไม่มีอยู่จริง แฮดด็อก จึงใช้นิ้วกดลงไปบนเกาะนั้น ทันใดนั้น ส่วนบนของลูกโลก ก็เปิดกระเด็นออกมา เผยให้เห็นสมบัติ ที่อยู่ในหมวกของกัปตันฟรานซิส เมื่อยกหมวกออกมา ตินติน ก็พบกระดาษปริศนาอีกชิ้นหนึ่ง เขาจึงชวนให้ แฮดด็อก ร่วมกันออกตามหาสมบัติที่เหลืออยู่ต่อไป

หนังแผ่น : DVD และ Blu-ray Disc ลิขสิทธิ์ ค่าย United ภาพคมชัด-ชัดมาก เสียงดี-ดีมาก