วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

Forrest Gump



แนวหนัง : ชีวิต ตลก

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ค่อนข้างง่าย ถึง ปานกลาง

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ชายหนุ่มผู้มีหน้าตา และ บุคลิกที่ใสซื่อ ดูเป็นมิตรอย่างยิ่ง กำลังนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา ให้คนที่นั่งรอรถเมล์อยู่ข้างๆได้ฟัง ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ บอกว่า "ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อกโกแล็ต เราไม่มีทางรู้ได้ว่า ข้างในนั้นมีอะไรบ้าง" (ในกล่อง จะมีช็อกโกแล็ตหลายรส คละกันอยู่) ตอนที่เขายังเด็ก เขาต้องใส่เหล็กดามขาเอาไว้ เพราะเขาเดินหลังโก่ง เขาอาศัยอยู่กับแม่ ที่กรีนโบว์ อลาบาม่า ในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งแม่ได้แบ่งห้องให้คนอื่นเช่า

     เมื่อถึงวัยที่เขาจะต้องเข้าโรงเรียน แม่ของเขาก็พาไปพบครูใหญ่ ครูใหญ่บอกว่า ผลทดสอบไอคิวของ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ มีไอคิวเพียง ๗๕ ซึ่งปกติทางโรงเรียนจะรับเฉพาะ เด็กที่มีไอคิวตั้งแต่ ๘๐ ขึ้นไปเท่านั้น เมื่อครูใหญ่ถามถึงพ่อของเขา แม่ก็ตอบว่า ไปพักร้อน (หมายถึง ไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย) แม่จึงต้องยอมนอนกับครูใหญ่ เพื่อให้ลูกได้เรียน ร่วมกับเด็กปกติทั่วไป

     ในวันแรกของการไปโรงเรียน ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ขึ้นรถโรงเรียน แต่ไม่มีใครยอมให้นั่งด้วย จนกระทั่ง มีเสียงของเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง เรียกให้เขานั่งด้วย เธอชื่อ เจนนี่ ตั้งแต่นั้นมา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ และ เจนนี่ ก็กลายเป็นเพื่อนสนิท ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แล้วในวันหนึ่ง ก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ขี่จักรยานมาตามรังแก ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เจนนี่จึงบอกให้เขาวิ่งหนี เขาวิ่งได้เร็วมาก จนเหล็กดามขาหลุดออกเป็นชิ้นๆ แม้แต่เด็กกลุ่มที่คอยตามแกล้ง ก็ยังขี่จักรยานตามเขาไม่ทัน เขาจึงเริ่มรู้สึกรักการวิ่ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนเมื่อเขาย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ก็ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย จากการวิ่งหนี คนที่ขับรถตามรังแกเขา ผ่านสนามแข่งอเมริกันฟุตบอล ของมหาวิทยาลัย จนอาจารย์เห็นแววนักกีฬาของเขา

     ในระหว่างที่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เขาได้แวะไปหาเจนนี่ ที่หน้าหอพักหญิง อยู่เสมอ เขาได้เล่นอเมริกันฟุตบอล วิ่งชนฝ่ายตรงข้าม จนสามารถนำชัยชนะ มาให้มหาวิทยาลัย อยู่เสมอ เขาจึงได้เข้าพบประธานาธิบดี JFK ก่อนที่ท่านจะถูกลอบสังหาร ในเวลาต่อมา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เรียนอยู่ ๕ ปี เมื่อเขาเรียนจบ ก็ได้สมัครเข้าไปเป็นทหาร

     ในวันแรกของการไปเป็นทหาร ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ขึ้นรถรับ-ส่งทหาร แต่ไม่มีใครยอมให้นั่งด้วย นอกจาก บั๊บบ้า ชายผิวดำ ที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บั๊บบ้า เป็นคนที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่เชี่ยวชาญการทำอาหารด้วยกุ้ง บั๊บบ้า จึงมักจะชอบคุยให้ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ฟังเรื่องเกี่ยวกับกุ้ง อยู่เสมอ ต่อมา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้รู้ข่าวที่ เจนนี่ ถ่ายแบบโป๊ ในชุดที่มีตราของมหาวิทยาลัย จนถูกไล่ออก เขาจึงหาโอกาสไปหา เจนนี่ ซึ่งทำงานร้องเพลงอยู่ในคลับ เมื่อเขาเห็น
เจนนี่ กำลังถูกคนดูลวนลาม เขาจึงรีบช่วยเธอออกมา เจนนี่ บอกกับเขาว่า เขาไม่สามารถตามช่วยเธอตลอดไปได้ หลังจากนั้น เจนนี่ ก็โบกรถเพื่อจะไปเมืองอื่น ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ จึงบอกกับเธอว่า เขากำลังจะถูกส่งตัว ไปรบที่เวียดนาม เจนนี่ จึงสั่งเขาว่า ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้รีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุด แล้วเธอก็ขึ้นรถจากไป

     เมื่อ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ และ บั๊บบ้า เดินทางไปถึงเวียดนาม พวกเขาก็ได้พบกับ ผู้หมวดแดน ซึ่งมาจากตระกูลที่เป็นทหาร และ ได้พลีชีพในสนามรบมาแล้วทุกรุ่น พวกเขาต้องเดินป่า ซึ่งมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง อยู่นานถึง ๔ เดือน ในระหว่างนั้น ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้เขียนจดหมายถึงเจนนี่ทุกวัน แต่เจนนี่ก็ไม่เคยตอบกลับเลยสักฉบับ บั๊บบ้า ก็ชวนให้เขา ทำธุรกิจเกี่ยวกับกุ้งด้วยกัน จนเมื่อถึงวันที่ฝนหยุดตก ฝ่ายตรงข้ามก็เข้าโจมตีอย่างหนัก หมวดแดน สั่งให้ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ วิ่งหนีไปก่อน เขาจึงวิ่งไปตามคำสั่ง จนพลัดหลงกับเพื่อนในหมู่เดียวกัน ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ จึงวิ่งย้อนกลับไป เพื่อตามหาบั๊บบ้า แต่เขาก็พบกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บก่อนทุกครั้ง เขาจึงต้องช่วยแบกเพื่อนๆ วิ่งพาไปหลบอยู่ริมแม่น้ำ รวมทั้งหมวดแดนด้วย ในระหว่างที่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ กำลังแบกหมวดแดนวิ่งอยู่ เขาก็ถูกยิงเข้าที่ก้น แต่เขาก็คงยังวิ่งกลับไป หาบั๊บบ้าจนพบ ในเวลานั้น ก็มีการทิ้งระเบิดนาปาล์ม แต่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ก็สามารถแบกบั๊บบ้า ไปที่ริมแม่น้ำได้ทัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน บั๊บบ้า ก็สิ้นใจ เพราะบาดเจ็บสาหัส

     ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ต้องนอนพักรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาล จดหมายที่เขาเคยส่งให้เจนนี่ ก็ถูกตีกลับมาทั้งหมด เมื่อเขาเริ่มเดินได้อีกครั้ง เขาก็มีโอกาสได้เล่นปิงปอง ซึ่งเขาก็เล่นได้เก่งมาก หมวดแดน รู้สึกโกรธที่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ทำให้เขาไม่ได้ตายในสนามรบ เหมือนกับบรรพบุรุษของเขา แต่กลับต้องกลายเป็นคนพิการ ขาขาดทั้ง ๒ ข้าง หมวดแดน ถูกส่งตัวกลับบ้านไปก่อน ส่วน ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ก็ได้กลับบ้านในภายหลัง และ ได้รับเหรียญกล้าหาญด้วย เขาได้ไปขึ้นเวที ผู้ประท้วงสงครามเวียดนาม โดยบังเอิญ นั่นทำให้เขา ได้พบกับเจนนี่อีกครั้ง เธอเล่าให้เขาฟังว่า เธอได้ออกเดินทาง ไปยังหลายสถานที่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้มอบเหรียญกล้าหาญของเขา ให้กับเจนนี่ ก่อนที่เธอจะขึ้นรถ จากเขาไปอีกครั้ง

     หลังจากนั้น ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ก็ได้เล่นปิงปองทีมชาติ ได้ไปแข่งขันที่ประเทศจีน จนคว้าชัยชนะกลับมา มีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนได้รับเชิญ ให้ไปออกรายการโทรทัศน์ พร้อมกับ จอห์น เลน่อน นักร้องชื่อดังแห่งวง สี่เต่าทอง ซึ่งถูกยิงตายหลังจากนั้นไม่นานนัก หมวดแดน ได้นั่งรถเข็น มาดักรอพบ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เขาแสดงความไม่พอใจที่ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้รับเหรียญกล้าหาญสูงสุด แต่เขาก็ไม่ได้โกรธ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ จริงๆ หมวดแดน จึงพา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ไปยังโรงแรมที่เขาพักอยู่ และ ได้ร่วมฉลองปีใหม่ ค.ศ. 1972 ด้วยกัน ในบาร์ด้านล่างของโรงแรม ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ บอกกับหมวดแดนว่า เขาจะไปออกเรือจับกุ้ง



     ต่อมาเมื่อ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้ปลดประจำการ เขาจึงกลับไปหาแม่ที่บ้าน หลังจากนั้น เขาก็เดินทางไปหา ครอบครัวของบั๊บบ้า เพื่อเคารพศพ และ ทำตามสัญญา ที่เคยให้ไว้กับบั๊บบ้า ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ จึงซื้อเรือเพื่อออกจับกุ้ง เขาล่องเรืออยู่นาน แต่ก็ไม่ค่อยได้กุ้งมากนัก เขายังตั้งชื่อให้เรือด้วยว่า เจนนี่ ในขณะที่ เจนนี่ กำลังหลงแสงสี และ ติดยาฯ จนเกือบจะกระโดดตึกตาย แต่แล้วเธอก็เปลี่ยนใจ

     หมวดแดน ได้เดินทางมาหา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ตามที่เขาส่งจดหมายไปบอก ทั้งสองคนจึงล่องเรือ ออกหากุ้งด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ค่อยได้กุ้งเหมือนเดิม หมวดแดน จึงบอกให้ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ แล้วในวันหนึ่ง ก็มีพายุลูกใหญ่เข้ามา เรือลำอื่นๆต่างอับปางกันไปหมด เหลือรอดเพียงแค่ เรือของ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เพียงลำเดียว หลังจากนั้น พวกเขาก็สามารถจับกุ้งได้ จำนวนมากมายมหาศาล จนได้ก่อตั้งเป็น บริษัทบั๊บบ้ากั๊มพ์ มีชื่อเสียงโด่งดัง และ ร่ำรวยมหาศาล

     จนกระทั่ง ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ทราบข่าวว่า แม่ของเขากำลังป่วยหนัก เขาจึงรีบกลับไปที่บ้าน เพื่ออยู่ดูแลแม่ ในวาระสุดท้าย ก่อนที่แม่จะสิ้นใจอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็ง หมวดแดน ซึ่งเป็นผู้ดูแลบริษัทฯให้ ได้บอกให้ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ซื้อหุ้นของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล เขายังได้แบ่งเงินส่วนของบั๊บบ้า ให้กับแม่ของบั๊บบ้าด้วย

     และแล้วในวันหนึ่ง เจนนี่ ก็กลับมาหา ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ และ ได้อาศัยอยู่ในบ้านของเขา จนกระทั่งในคืนหนึ่ง ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้ขอเจนนี่แต่งงาน แต่เธอปฎิเสธ เพราะคิดว่า เขาไม่รู้จักความรักจริงๆ ทำให้เขารู้สึกน้อยใจ เพราะเขารักเธอจริงๆ จนเมื่อเขาเข้านอนแล้ว เจนนี่ ก็เข้ามาบอกรักเขา แล้วทั้งคู่จึงได้นอนด้วยกัน แต่พอถึงรุ่งเช้า เจนนี่ ก็แอบขึ้นรถหนีไป ก่อนที่เขาจะตื่น นั่นทำให้ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ รู้สึกเหงา และ เศร้าใจ เขาจึงหยิบเอารองเท้า คู่ที่เจนนี่เคยซื้อให้ เอามาใส่ แล้วออกวิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย วิ่งข้ามเมืองต่างๆไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน เขาคิดถึงแม่ บั๊บบ้า หมวดแดน และ เจนนี่ แต่ก็ยังวิ่งไม่ยอมหยุด จนได้เป็นข่าวออกโทรทัศน์ จากนั้น ก็มีคนออกวิ่งตามเขาไป เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

     หลังจากวิ่งมา เป็นเวลานานถึง ๓ ปี กับอีก ๒ เดือนกว่า ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ก็หยุดวิ่ง เขาบอกกับบรรดาผู้ติดตาม แค่เพียงว่า เหนื่อยมาก กลับบ้านดีกว่า แล้วเขาก็กลับบ้าน เมื่อ เจนนี่ ได้เห็นข่าวการวิ่งของเขา เธอจึงส่งจดหมายบอกที่อยู่ ให้เขาไปหาเธอ เมื่อ ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ เล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ เขาก็ส่งจดหมายฉบับนั้น ให้หญิงชรา ที่นั่งรอรถเมล์อยู่ข้างๆได้ดู หญิงชรา จึงบอกกับเขาว่า จากจุดนี้ไปอีกไม่ไกล เขาสามารถวิ่งไปหาเจนนี่ได้ เขาจึงได้พบกับเจนนี่ ด้วยความดีใจยิ่ง เจนนี่ ขอโทษเขา ที่เป็นต้นเหตุให้เขา ต้องออกวิ่งนานขนาดนั้น

     และเมื่อเพื่อนของเจนนี่ พาลูกชายของเธอมาส่งที่ห้อง ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ จึงได้รู้ว่า เด็กชายคนนั้นก็คือ ลูกของเขานั่นเอง เขาตกใจมาก เพราะเกรงว่า ลูกจะมีไอคิวต่ำเหมือนกับเขา แต่เจนนี่บอกว่า ลูกของเขาเป็นเด็กที่ฉลาดมาก หลังจากนั้น เจนนี่กับลูก ก็ได้กลับไปอยู่กับเขา เจนนี่ บอกกับเขาว่า เธอกำลังป่วย และ ได้ขอแต่งงานกับเขา งานแต่งงานถูกจัดขึ้น อย่างเรียบง่ายที่สนามหญ้า ภายในบริเวณบ้าน หมวดแดน ใส่ขาเทียมมาร่วมงาน พร้อมกับคู่หมั้นของเขา

     ทั้งสามคน พ่อ แม่ ลูก ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ต่อมาอีกระยะหนึ่ง จนถึงวันที่ เจนนี่ ต้องจากไป อย่างไม่มีวันกลับ หลังจากนั้น ฟอร์เรสท์ กั๊มพ์ ได้ไปเยี่ยมหลุมศพของเจนนี่ และ บอกกับเธอว่า ลูกชายของเธอกับเขา เป็นเด็กดี ฉลาด และ ชอบเล่นปิงปองด้วย เขายังได้วางจดหมาย ที่ลูกเขียนถึงเธอ ไว้บนหลุมศพด้วย และ ในวันแรกที่ลูกของเขา จะต้องเข้าโรงเรียน เขาก็ได้ไปส่งลูก ขึ้นรถโรงเรียน ซึ่งลูกของเขา
ก็ได้แสดงความฉลาด น่ารัก เป็นที่ประทับใจของคนขับรถโรงเรียน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกัน

หนังแผ่น : DVD ลิขสิทธิ์ ภาพคมชัด เสียงดี