วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

The Polar Express



แนวหนัง : การ์ตูน ครอบครัว ผจญภัย จินตนาการ

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ค่อนข้างง่าย ถึง ปานกลาง

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ในคืนคริสต์มาสอีฟ ที่เต็มไปด้วยหิมะ เด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยจะเชื่อ ว่า ซานตาครอส มีอยู่จริง เขาได้ยินเสียง ดังมาจากหลังบ้าน จึงรีบวิ่งออกไปดู พบว่า มีขบวนรถไฟ Polar Express มาจอดอยู่ คนตรวจตั๋ว เรียกให้เขาขึ้นรถไฟ เพื่อไปยังขั้วโลกเหนือ แต่เขาไม่ยอมไป จนกระทั่งรถไฟเริ่มแล่น เขาจึงวิ่งตาม และ กระโดดขึ้นไปได้ทัน เมื่อเข้าไปข้างใน ก็พบว่า มีเด็กๆอยู่อีกหลายคน คนตรวจตั๋ว เดินมาหาเขา พร้อมกับขอตรวจตั๋ว โดยบอกให้เขาล้วงลงไป ในกระเป๋าเสื้อคลุม เขาต้องแปลกใจ เพราะมีตั๋วอยู่ ๑ ใบจริงๆ เมื่อแล่นไปได้สักพักหนึ่ง รถไฟก็จอด เพื่อรับเด็กชายตัวเล็ก เป็นคนสุดท้าย แต่เด็กคนนั้น ก็ไม่ยอมขึ้น จนรถไฟแล่นต่อ เด็กชายตัวเล็ก จึงค่อยเปลี่ยนใจวิ่งตาม แต่ก็ไม่ทัน เมื่อเห็นดังนั้น เด็กชายคนที่ขึ้นมาก่อน จึงดึงเบรกฉุกเฉิน เพื่อให้รถไฟหยุด เด็กชายตัวเล็ก จึงได้ขึ้น แล้วเดินแยกไปนั่ง ในตู้สุดท้าย เพียงลำพัง


     คนตรวจตั๋ว เดินเข้ามาต่อว่า ที่มีคนดึงเบรกฯ แต่พอรู้สาเหตุ เขาก็ไม่ว่าอะไรอีก จากนั้น จึงเรียกพนักงานออกมาเสิร์ฟ ช็อกโกแลตร้อน ให้กับเด็กๆทุกคน เด็กหญิงผิวดำคนหนึ่ง ได้แอบซ่อนช็อกโกแลตร้อน ไว้หนึ่งถ้วย เมื่อคนตรวจตั๋ว และ พนักงานเสิร์ฟ ไปแล้ว เด็กหญิงผิวดำ จึงยกถ้วยช็อกโกแลตร้อน ไปให้เด็กชายตัวเล็กชื่อ บิลลี่ เมื่อเด็กชาย เห็นว่า เด็กหญิงผิวดำ ลืมตั๋วไว้บนที่นั่ง จึงหยิบนำไปให้ แต่ก็ถูกลมพัด ปลิวออกไปนอกรถไฟ แต่สุดท้าย ก็ปลิวกลับเข้าไป ติดช่องลมในตู้รถไฟ โดยที่ยังไม่มีใครเห็น เมื่อคนตรวจตั๋ว ขอตรวจตั๋ว ของเด็กหญิงผิวดำ ก็ได้รู้ว่า เด็กชาย ทำตั๋วปลิวหายไป คนตรวจตั๋ว จึงพาเด็กหญิง ไปยังท้ายขบวน



     เด็กชาย เห็นตั๋วที่ช่องลม จึงรีบหยิบตั๋ว แล้วเดินตามไป ปีนขึ้นไป บนหลังคารถไฟ ซึ่งเต็มไปด้วยหิมะ ในขณะที่ หิมะกำลังตก เขาได้พบชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ข้างกองไฟ ชายคนนั้นบอกว่า เขาขึ้นรถไฟฟรี และ ถามเด็กชายเกี่ยวกับ ความเชื่อ ทั้งเรื่อง ซานต้า ขั้วโลกเหนือ และ ผี จากนั้น เขาก็พาเด็กชาย เดินตามหาเด็กหญิง โดยเดินไปบนหลังคารถไฟ ไปยังหัวขบวน ในขณะที่ รถไฟต้องแล่นขึ้นเขา ลงเขา ชายคนนั้นบอกให้เด็กชาย กระโดด ก่อนที่รถไฟ จะลอดอุโมงค์ แล้วชายคนนั้นก็หายตัวไป เด็กชาย ได้พบกับเด็กหญิง อยู่บนที่นั่งของคนขับรถไฟ



     คนขับรถไฟ ๒ คน กำลังเปลี่ยนหลอดไฟหน้ารถ เห็นฝูงกวางแคริบู นับแสนตัวขวางทางอยู่ จึงตะโกนบอกให้ เด็กหญิงหยุดรถ แต่เด็กหญิง เกิดรู้สึกลังเล เด็กชายจึงช่วยเบรกแทน คนตรวจตั๋ว เห็นดังนั้น จึงแก้ปัญหาด้วยการ ดึงเคราของคนขับคนหนึ่ง เพื่อให้ส่งเสียงร้อง คล้ายเสียงกวาง ทำให้ฝูงกวาง ยอมถอยห่างออกจากรางรถไฟ เมื่อรถไฟแล่นต่อไปสักครู่ สลักคันโยกก็หลุด ทำให้รถแล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ คนตรวจตั๋ว เด็กชาย และ เด็กหญิง ซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของรถไฟ จึงต้องเกาะไว้ให้แน่น รถไฟแล่นลงเขา ด้วยความเร็วสูง จนถึงพื้นด้านล่าง ซึ่งถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ทำให้รถไฟลื่นไถล พื้นน้ำแข็งแตกแยกตามมา คนตรวจตั๋ว จึงบอกให้ขับรถไฟหนีโดยเร็ว จนสามารถแล่นขึ้นเขา ได้ทันพอดี เด็กชาย จึงได้คืนตั๋วให้เด็กหญิง แล้วคนตรวจตั๋ว ก็พาทั้งคู่ เดินกลับไปนั่งที่ตู้เดิม



     หลังจากนั้น เด็กหญิง ก็เดินไปหาบิลลี่ ซึ่งกำลังยืนร้องเพลง มองท้องฟ้า อยู่ท้ายขบวน โดยมีเด็กชาย เดินตามไปด้วย เด็กหญิง จึงร่วมร้องเพลง แล้วยืนชมแสงเหนือด้วยกัน ๓ คน คนตรวจตั๋ว ได้เดินมาหา เพื่อบอกว่า จวนจะถึงขั้วโลกเหนือ แล้วจึงชี้ให้ดู


     เมื่อรถไฟ ไปถึงขั้วโลกเหนือ บิลลี่ ไม่ยอมลงจากรถไฟ เด็กหญิง และ เด็กชาย จึงขึ้นไปตาม แต่เด็กชายก้าวพลาด เหยียบถูกคันโยก ทำให้ตู้สุดท้าย ถูกแยกออก และ แล่นถอยหลังลงไป เมื่อหยุดแล่นแล้ว เด็กหญิง ได้ยินเสียงกระดิ่ง ออกมาจากอุโมงค์ จึงพากันเดินตามเสียงไป มีแต่เด็กชายเพียงคนเดียว ที่ไม่ได้ยินเสียงกระดิ่ง ทั้งสามคน เห็นเอลฟ์นั่งกระสวยเดินทาง จึงนั่งกระสวยตามไปบ้าง จนถึงจุดจอดกระสวย แล้วเดินต่อไปตามทาง ที่มีลูกศรชี้



     บิลลี่ เห็นกล่องของขวัญ ที่มีชื่อของตน เลื่อนผ่านหน้าไป จึงกระโดดตามไปจับไว้ เด็กหญิง และ เด็กชาย จึงต้องกระโดดตามไปด้วย จนไหลลื่นไปตามทาง ตกลงไปบนกองของขวัญ ซึ่งอยู่ในถุงผ้าขนาดยักษ์ ทันใดนั้น ถุงของขวัญก็ถูกดึง ลอยขึ้นไปกับบอลลูน ก่อนจะถูกทิ้งลง บนรถเลื่อนของซานต้า เหล่าเอลฟ์ ก็มาพาเด็กๆลงไป อย่างปลอดภัย



     เหล่าเอลฟ์ ได้พากวางเรนเดียร์ เดินออกมา มีเสียงกระดิ่งดังกังวาล ทุกคนต่างชื่นชม แต่เด็กชายกลับไม่ได้ยิน หลังจากนั้น ซานตาคลอส ก็เดินออกมา กวางเรนเดียร์ กระโดดจนกระดิ่ง หลุดกระเด็นออกมา ๑ ลูก เด็กชาย เก็บกระดิ่งขึ้นมา เขย่าข้างหู แต่เขาก็ไม่ได้ยินเสียง เขาจึงยอมเชื่อว่า ซานต้ามีอยู่จริง แล้วจึงได้ยิน เสียงกระดิ่งอันไพเราะ ในทันใด เมื่อซานต้า เดินมาถึง เด็กชาย จึงคืนกระดิ่งให้ ซานต้า จึงเลือกเด็กชาย ให้เป็นผู้ที่ได้รับของขวัญชิ้นแรก เด็กชาย ได้กระซิบข้างหูของซานต้า ว่า อยากได้กระดิ่ง เป็นของขวัญ ซานต้า จึงมอบให้ พร้อมกับบอกเขาว่า จิตวิญญาณที่แท้จริงของคริสต์มาส อยู่ในใจเธอ ก่อนที่ ซานต้า จะบอกให้กวางเรนเดียร์ ลากรถเลื่อน เหาะขึ้นท้องฟ้า แล้วหายไป




     ก่อนจะขึ้นรถไฟ เพื่อเดินทางกลับบ้าน คนตรวจตั๋ว ได้เจาะรูเพิ่ม ที่ตั๋วของเด็กๆ เรียงเป็นตัวอักษร เด็กหญิง ได้คำว่า LEAD (นำ) เด็กชาย ได้คำว่า BELIEVE (เชื่อ) เมื่อไปถึงที่นั่งแล้ว เพื่อนๆก็มาขอดู กระดิ่ง ที่ซานต้าให้เด็กชายมา แต่พอเด็กชาย ล้วงกระเป๋าเสื้อคลุม ก็พบว่า กระดิ่งไม่อยู่แล้ว เพราะเผลอใส่กระเป๋า ข้างที่ขาดเป็นรู หลังจากนั้น รถไฟก็เริ่มแล่น เพื่อนๆจึงได้แต่บอกว่า เสียใจด้วย จนเมื่อถึงบ้านของบิลลี่ เขาก็พบว่า ซานต้าได้นำของขวัญ มาวางไว้ให้แล้ว และ เมื่อถึงบ้านของเด็กชาย คนตรวจตั๋ว ได้บอกกับเขาว่า ไม่สำคัญว่า รถไฟจะไปที่ไหน แต่สำคัญที่ การตัดสินใจขึ้นรถไฟไป




     เช้าวันรุ่งขึ้น น้องสาวของเด็กชาย ปลุกเขาให้ตื่น เพื่อไปแกะกล่องของขวัญด้วยกัน พบกล่องของขวัญขนาดเล็ก ภายในมี กระดิ่ง และ ข้อความจากซานต้า บอกว่า เสียงกระดิ่ง จะดังสำหรับ คนที่เชื่ออย่างแท้จริง เท่านั้น

แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์ ค่าย Catalyst ภาพคมชัด (สวยมาก) เสียงดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น