วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

Salt



แนวหนัง : บู๊ ตื่นเต้น ซับซ้อนซ่อนเงื่อน

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ที่ประเทศเกาหลีเหนือเมื่อ ๒ ปีก่อน เอฟเวอรีน ซอลท์ สายลับ CIA สาว ถูกจับขังคุก และ ทรมาน แต่ก็ได้ถูกช่วยเหลือ โดยการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ หัวหน้าของเธอ เป็นผู้มารับตัวเธอไป โดยมีคนรักของเธอ ไมเคิล นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมงมุม มารอรับเธออยู่ ซึ่งเขานั่นเอง ที่เป็นผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน ไปยังกระทรวงการต่างประเทศ จนเกิดการแลกตัวนักโทษขึ้น

     ปัจจุบัน ในวันครบรอบแต่งงานของ ซอลท์กับไมเคิล มีสายลับรัสเซียชื่อ โอลอฟ มายัง สนง. CIA ซอลท์ ได้รับคำสั่งให้ เป็นผู้ทำการสอบสวน โดยมี พีบอดี้ จนท.หน่วยข่าวกรองพิเศษ มาร่วมดูอยู่ด้วย โอลอฟ เล่าให้ซอลท์ฟัง ว่า ในปี 1975 สมัยสงครามเย็น นักมวยปล้ำชายชาวรัสเซียคนหนึ่ง ได้พบรักกับหญิงสาวคนหนึ่ง ภายหลังได้แต่งงาน และ มีลูกด้วยกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่า ลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว แต่แท้จริงแล้ว ด.ญ.เชนคอฟ ได้ถูกส่งตัวไปอยู่กับ โอลอฟ ผู้ฝึกสายลับรัสเซีย เมื่อฝึกแล้ว ก็ส่งไปแฝงตัวเป็นชาวอเมริกัน เพื่อรอให้ถึงวันสังหาร ซึ่งก็คือ วันพรุ่งนี้ สายลับเชนคอฟ จะต้องลอบสังหาร ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งจะมาร่วมงานศพของ อดีตประธานาธิบดีอเมริกา แล้วยังบอกอีกว่า สายลับรัสเซียผู้นั้นชื่อ ซอลท์

     เมื่อได้ฟังดังนั้น ซอลท์ จึงรู้ตัวว่า ไมเคิล กำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะสายลับที่ถูกเปิดเผยตัว ครอบครัวจะไม่ปลอดภัย ซอลท์ ยืนยันกับหัวหน้าว่า เธอไม่ใช่สายลับรัสเซีย เธอกำลังถูกใส่ร้าย แต่พีบอดี้ เชื่อผลที่ได้จากเครื่องจับเท็จว่า โอลอฟ พูดความจริง ซอลท์ รีบโทร.หาไมเคิล แต่ยังติดต่อไม่ได้ โอลอฟ ได้ฆ่าเจ้าหน้าที่ ๒ คน แล้วหลบหนีไปได้ ด้วยความเป็นห่วงสามี ซอลท์ จึงต้องแอบหนี แต่ก็ถูกปิดกั้นทุกทาง เธอจึงต้องขังตัวเองไว้ในห้องๆหนึ่ง แล้วรีบหาวัสดุสำหรับทำระเบิด ในขณะที่เจ้าหน้าที่หลายคน พยายามจะบุกเข้าไปจับตัวเธอ ซอลท์ จึงยิงระเบิดใส่ ทำให้เธอสามารถหนีออกไปได้ แล้วขึ้นรถแท็กซี่ไป ซอลท์ พยายามโทร.หาไมเคิล แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

     ซอลท์ กลับถึงบ้าน ไม่พบไมเคิล เธอได้เอาแมงมุมของเขาติดตัวไปด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ก็ไม่พบเธอแล้ว ต่อมาไม่นาน หัวหน้าของซอลท์ เห็นเธอเดินอยู่ริมถนน เธอจึงวิ่งหนี เข้าไปในลานจอดรถ เมื่อเธอถูกล้อมเอาไว้ เธอจึงตัดสินใจ กระโดดลงไป บนหลังคารถบรรทุก ที่กำลังแล่นผ่านไปพอดี จากนั้นก็กระโดด ไปยังรถขนส่งน้ำมัน แล้วค่อยกระโดดไป บนรถอีกคันหนึ่ง แต่คนขับรถมองเห็นในกระจกข้างรถ จึงเบรกทันที ทำให้ซอลท์ กระเด็นตกลงมา เธอจึงชิงรถมอร์เตอร์ไซด์ ขับหนีฝ่ารถติด พ้นไปได้ในที่สุด ซอลท์ เดินทางต่อไป และ ได้เข้าพักในโรงแรม ใกล้กับโบสถ์ที่ ประธานาธิบดีรัสเซีย จะต้องมาร่วมงานศพ แล้วเธอก็ย้อมผมเป็นสีดำ


     วันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีรัสเซีย มาร่วมงานศพ ซอลท์ แอบลอบเข้าไป ในห้องใต้ดิน เธอระเบิดเพดาน ทำให้พื้นชั้นบนถล่ม ประธานาธิบดีรัสเซีย ตกลงมา และ ถูกเธอยิงล้มลงไป เมื่อ พีบอดี้ วิ่งมาถึง ซอลท์ มีโอกาสยิงเขาได้ แต่เธอกลับยอมให้จับแต่โดยดี พีบอดี้ จึงสงสัยว่า ทำไมเธอจึงไม่ยิงเขา ซอลท์ ถูกคุมตัวขึ้นรถตำรวจไป ในระหว่างทาง ซอลท์ ทำร้ายตำรวจ และ บังคับรถพุ่งจากสะพาน ลงไปชนกับรถ บนถนนด้านล่าง แล้วจึงแอบหลบหนีไปได้

     ซอลท์ ลงเรือเดินทางไปยัง ประเทศรัสเซีย ไปพบกับโอลอฟ เขาพาเธอไปยัง ที่ซ่อนของเหล่าสายลับรุ่นเดียวกับเธอ แต่เมื่อเธอได้เห็นไมเคิล ซึ่งถูกจับตัวมา เขาก็ถูกยิงตาย ต่อหน้าเธอทันที ซอลท์ ต้องข่มความรู้สึกเสียใจเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น ทำให้ทุกคนไว้ใจเธอ หลังจากนั้น โอลอฟ ได้มอบหมายงานใหม่ ให้เธอไปพบกับสายลับ ที่แฝงตัวอยู่ในองค์การนาโต้ เพื่อรับคำสั่งต่อไป เมื่อฟังคำสั่งจบ ซอลท์ ก็ฆ่าโอลอฟ และ สายลับรัสเซียทั้งหมด จากนั้น เธอก็ไปพบสายลับนาโต้ บนเครื่องบิน ซึ่งก็คือ เพื่อนเก่าร่วมรุ่นฝึกสายลับของเธอนั่นเอง เขาได้บอกให้เธอ ฆ่าประธานาธิบดีอเมริกา แล้วเขาก็พาเธอ ซึ่งได้แปลงโฉมเป็นผู้ชายแล้ว เข้าไปในทำเนียบขาว เมื่อเข้าใกล้ ประธานาธิบดี เขาก็ระเบิดตัวเอง ทำให้หน่วยอารักขา พาประธานาธิบดีเข้าลิฟท์ ลงไปยังห้องนิรภัยใต้ดิน ซอลท์ รีบตามลงไป

     เมื่อถึงห้องใต้ดิน ประธานาธิบดี ก็ได้รับรายงานว่า รัสเซีย อาจจะกำลังเตรียมยิงขีปนาวุธ ประธานาธิบดี จึงสั่งการให้เตรียมพร้อมรบ ในขณะเดียวกัน ซอลท์ ได้ทำลายกล้องวงจรปิดทั้งหมด รวมทั้งวงจรเปิด-ปิดประตูด้วย หัวหน้าของซอลท์ ได้แย่งปืนจากเจ้าหน้าที่อารักขา แล้วฆ่าทุกคนในห้องนิรภัย และ ทำให้ประธานาธิบดีสลบไป จากนั้น เขาก็สั่งการผ่านคอมพิวเตอร์ ให้เตรียมยิงจรวดนิวเคลียร์ เมื่อ ซอลท์ เห็นดังนั้น เธอจึงชวนเขาคุย เขาบอกกับเธอว่า เขาเป็นสายลับรัสเซีย รุ่นพี่ของเธอ เธอจึงไม่เคยรู้จักเขา ก่อนที่จะได้ มาทำงานใน CIA ร่วมกัน ซอลท์ ขอให้เขาเปิดประตู ให้เธอเข้าไป แต่ทันใดนั้น เขาก็เห็นข่าวในโทรทัศน์ ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังไม่ตาย เพราะ ซอลท์ ยิงด้วยพิษแมงมุม ทำให้ดูเหมือนตายไปชั่วขณะเท่านั้น ซอลท์ จึงบอกกับเขาว่า โอลอฟ ได้ตายไปแล้ว เขาจึงบอกกับเธอว่า เขาเป็นคนกล่อมให้โอลอฟ ยอมเปิดโปงฐานะของเธอเอง

     ซอลท์ ยิงกระจกนิรภัยไม่แตก เธอจึงยิงผนังด้านข้างจนทะลุ แล้วต่อสวิทซ์ทำให้ประตูเปิด จากนั้น ก็เข้าไปต่อสู้กัน จนกระทั่ง ตำรวจมาถึง ซอลท์ จึงรีบดึงสายปลั๊กออก จากคอมพิวเตอร์ พีบอดี้ ได้รับรายงานว่า โอลอฟกับพรรคพวกตายแล้ว ซอลท์ ถูกจับใส่กุญแจมือ ในระหว่างที่ เธอถูกคุมตัว เดินผ่านหัวหน้าของเธอ ซึ่งเขาได้เตรียมจะฆ่าปิดปากเธอ ซอลท์ ก็ใช้โซ่กุญแจมือ รัดคอเขา แล้วกระโดดข้ามหัว ทิ้งน้ำหนักรัดคอเขาจนตาย จากนั้น เธอก็ถูกคุมตัว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป พีบอดี้ ถามเธอว่า ทำไมจึงฆ่าหัวหน้า พร้อมกับชกหน้าเธอ เธอบอกว่า หัวหน้าสมควรถูกฆ่า แต่เธอไม่คิดจะฆ่าเขา และ ประธานาธิบดีรัสเซีย พีบอดี้ ได้รับรายงานว่า พบลายนิ้วมือของซอลท์ ในสถานที่ ที่โอลอฟตาย ซอลท์ บอกกับเขาว่า โอลอฟ พรากทุกอย่างไปจากเธอ เธอจึงตั้งใจจะฆ่าสายลับรัสเซีย ที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด ซึ่งยังมีอยู่อีกจำนวนมาก พีบอดี้ จึงแอบไขกุญแจมือให้ซอลท์ เธอจึงเปิดประตูฮ. กระโดดลงสู่แม่น้ำ แล้วขึ้นฝั่งหนีต่อไป

แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์ ค่าย MVD ภาพคมชัด เสียงดี

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ2 มีนาคม 2554 เวลา 15:55

    น้องเขียนเองหมดเลยหรอคะ ^^ เก่งจังเลยนะคะ ^_^

    ตอบลบ
  2. ผมเขียนบทความในเว็บฯนี้เองทั้งหมดเลยครับ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ ช่วงหลังผมไม่ค่อยมีเวลาเขียนมากนัก จึงเขียนได้น้อยลง แต่ก็จะเขียนออกมาอีกเรื่อยๆครับ

    ตอบลบ