วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Big Fish



แนวหนัง : ชีวิต ตลก จินตนาการ ผจญภัย

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ปลาบางตัว ไม่มีใครสามารถจับได้ เพราะมันมีความพิเศษอยู่ในตัว รวมทั้ง ปลายักษ์ ตัวนี้ด้วย เอ็ดเวิร์ด บลูม ชอบเล่าเรื่อง ปลายักษ์ ให้ลูกชายฟังซ้ำๆ ตั้งแต่ยังเล็กจนโต และ ไม่ว่าจะใช้เหยื่อล่อชนิดไหน ปลายักษ์ก็ไม่เคยหลงกลฮุบเหยื่อเลย แต่เอ็ดเวิร์ดรู้ว่า ปลายักษ์ตัวนี้เคยเป็นโจรสลัดมาก่อน เขาจึงใช้แหวนแต่งงานทองคำของเขา เป็นเหยื่อล่อ จึงสามารถจับปลายักษ์ได้ ในวันที่ลูกเกิด เอ็ดเวิร์ดยังชอบเล่าเรื่องนี้ ให้คนอื่นๆได้ฟังด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่ง วันนี้ วันแต่งงานของ วิล ลูกชายคนเดียวของเขา วิล บอกพ่อว่า เขารู้สึกเบื่อมาก ที่พ่อเล่าแต่เรื่องโกหกมาตลอด ไม่เคยเล่าเรื่องจริงให้เขา
ฟังบ้างเลย วิลคิดว่า พ่อแยกไม่ออก ระหว่าง ความจริงกับจินตนาการ พ่อกับลูกจึงทะเลาะกัน หลังจากนั้น ก็ไม่ได้พูดกันอีกเลย เป็นเวลาถึง ๓ ปี


     แซนดร้า แม่ของวิล โทร.บอกวิลว่า พ่อกำลังป่วยหนัก เป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย วิล และ ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ จึงเดินทางไปเยี่ยมพ่อ ในระหว่างที่นั่งเครื่องบิน วิลได้นึกถึงตอนเด็ก พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่พ่อยังเด็ก เขากับเพื่อนๆไปเล่นกันแถวบ้านของแม่มด ซึ่งมีดวงตาข้างขวาเป็นลูกแก้ว ใครที่จ้อง
มองดวงตาแก้ว จะได้เห็นภาพการตายของตัวเอง เอ็ดเวิร์ดถูกเพื่อนๆท้า จึงเดินเข้าไปหาแม่มด แล้วขอให้แม่มดออกมาพบเพื่อนๆ แม่มดเปิดที่ปิดตาออก เพื่อนๆจึงได้เห็น ภาพการตายของตัวเอง เอ็ดเวิร์ดขอจ้องตาแม่มดเป็นคนสุดท้าย เพราะถ้าเขารู้ว่า เขาจะตายอย่างไร เขาก็มั่นใจได้ว่า เขาจะต้องไม่ตาย เพราะสาเหตุอื่นอย่างแน่นอน


     เมื่อวิลมาถึง ก็เข้าไปคุยกับพ่อ เอ็ดเวิร์ดบอกวิลว่า เขายังไม่ตายตอนนี้ เพราะเขาเคยเห็นภาพการตายของตัวเอง จากดวงตาแก้วของแม่มด วิลขอร้องพ่อ ให้เล่าเรื่องจริงให้เขาฟังบ้าง เอ็ดเวิร์ดจึงเปลี่ยนเรื่องคุย เอ็ดเวิร์ดได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ความสูงของเขาในช่วงวัยรุ่น กระดูกของเขาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มากกว่าคนทั่วไป จนต้องใช้เวลานอนพักฟื้น อยู่บนเตียง นานถึง ๓ ปี หลังจากนั้น เอ็ดเวิร์ดก็กลายเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ และ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ประสบความสำเร็จทุกอย่าง กลายเป็นขวัญใจของชาวเมือง จนกระทั่งวันหนึ่ง มียักษ์เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เอ็ดเวิร์ดอาสาไปเจรจากับยักษ์ เขาไปถึงหน้าถ้ำ ที่ยักษ์อาศัยอยู่ แล้วเสนอตัวให้ยักษ์กิน เพราะเขารู้ว่า เขาจะไม่ตายเพราะถูกยักษ์กินอย่างแน่นอน ยักษ์บอกว่า ไม่ได้อยากกินใคร แต่เพราะตัวโตมาก จึงกินจุมาก เอ็ดเวิร์ดบอกยักษ์ว่า เมืองนี้เล็กเกินไป เอ็ดเวิร์ดจึงอาสาพายักษ์ไปยังเมืองใหญ่ เมื่อทั้งคู่ออกเดินทางไปจนถึงทางแยก เอ็ดเวิร์ดบอกให้ยักษ์ไปทางใหม่ ส่วนเขาจะไปทางเก่า ที่กวีคนหนึ่งจากเมืองเดียวกับเขาเคยไป แล้วค่อยไปพบกันข้างหน้า


     เอ็ดเวิร์ด เดินลุยป่ารกทึบ ถูกผึ้งไล่ต่อย ฝ่าใยแมงมุม จนถึงหมู่บ้าน บางหลอน มีคนมาต้อนรับ พร้อมกับบอกว่า เขามาถึงเร็วเกินไป จากนั้น ก็พาเขาไปพบกวีที่เขารู้จัก และ เลี้ยงอาหาร เด็กหญิงคนหนึ่งแอบมุดใต้โต๊ะ ขโมยรองเท้าของเขา แล้ววิ่งหนีไป เขารีบวิ่งตามไป แต่เด็กหญิงได้ผูกเชือกรองเท้าเข้าด้วยกัน แล้วโยนขึ้นไปแขวนบนราวสูง เอ็ดเวิร์ดจึงต้องเดินเท้าเปล่า ได้สัมผัสกับพื้นหญ้าสีเขียวสดที่อ่อนนุ่ม เหมือนกับทุกคนในหมู่บ้าน พอเริ่มค่ำ เอ็ดเวิร์ดนั่งเล่นอยู่ริมน้ำ เขาเห็นหญิงสาวเปลือยกายยืนอยู่กลางน้ำ มีงูตัวหนึ่งกำลังว่ายน้ำไปใกล้เธอ เขาจึงรีบว่ายน้ำไปจับงู หญิงสาวกระโดดน้ำหายไป งูกลายเป็นท่อนไม้ เอ็ดเวิร์ดกลับเข้าฝั่ง พบเด็กหญิง เจนนิเฟอร์ ยืนอยู่ริมน้ำ เจนนิเฟอร์บอกเขาว่า หญิงสาวเปลือยนั้นคือ ปลายักษ์ที่ไม่มีใครจับได้ เมื่อทั้งคู่เดินกลับเข้าหมู่บ้าน ซึ่งกำลังมีงานเต้นรำ เอ็ดเวิร์ดต้องเต้นรำกับทุกคน แล้วจู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาว่า เขาต้องจากที่นี่ไปในคืนนี้ เอ็ดเวิร์ดได้ให้สัญญากับเจนนิเฟอร์ว่า วันหนึ่งเขาจะกลับมา เอ็ดเวิร์ดเดินเท้าเปล่าออกจากหมู่บ้าน ต้นไม้ในป่ายื่นกิ่งก้านมารัดตัวเขา แต่เมื่อเขานึกได้ว่า เขาไม่ได้ตายแบบนี้ ต้นไม้จึงปล่อยเขาไป เอ็ดเวิร์ดจึงเดินต่อไป จนได้พบกับยักษ์ตามที่นัดไว้


     กลับมาที่ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ดนอนหลับอยู่ ภรรยาของวิลเดินเข้ามาดูแล เอ็ดเวิร์ดตื่นขึ้นพอดี เขาจึงเล่าให้เธอฟังต่อว่า ในระหว่างเดินทาง เขาแวะชมละครสัตว์ จนเมื่อถึงการแสดงของชายคนหนึ่ง ที่มีร่างกายสูงใหญ่กว่าคนทั่วไป เขาจึงผิวปากเรียก ให้ยักษ์เดินเข้ามาแสดงตัว ทุกคนหันมามองด้วยความรู้สึก ตื่นตะลึง ในเวลานั้นเอง เอ็ดเวิร์ดได้เห็นสาวสวยในชุดสีฟ้า เขาตกหลุมรักเธอในทันที ทุกๆสิ่งรอบตัวเขาหยุดนิ่ง เวลาหยุดเดิน เขาจึงเดินตรงไปหาเธอ แต่ยังไม่ทันได้พูดกับเธอ เวลาก็เดินต่ออย่างรวดเร็ว เพื่อชดเชยกับเวลาที่หยุดไป เอ็ดเวิร์ดจึงตามเธอไม่ทัน เจ้าของคณะละครสัตว์ ได้ให้ยักษ์เซ็นสัญญาทำงาน เขาบอกเอ็ดเวิร์ดซึ่งกำลังเศร้าอยู่ ว่า รู้จักกับสาวในชุดสีฟ้าคนนั้น เอ็ดเวิร์ดจึงขอทำงานด้วย โดยไม่รับค่าจ้างเป็นเงิน แต่จะต้องเล่าเรื่องของสาวคนนั้น ให้เอ็ดเวิร์ดฟังเดือนละ ๑ เรื่อง


     เอ็ดเวิร์ด ทำงานทุกอย่างในคณะละครสัตว์ อยู่หลายเดือน แต่ก็ยังไม่รู้ชื่อ ที่อยู่ ของเธอเลย เขาจึงตัดสินใจ เดินไปหาเจ้าของคณะฯในค่ำคืนหนึ่ง แต่กลับพบหมาป่าที่ดูดุร้ายแทน พอรุ่งเช้าเอ็ดเวิร์ดจึงได้รู้ว่า เจ้าของคณะฯเป็นมนุษย์หมาป่า เขาจึงยอมบอกเอ็ดเวิร์ดว่า สาวในชุดสีฟ้าคนนั้นชื่อ แซนดร้า แล้วบอกว่า ให้รีบไปหาเธอที่มหาวิทยาลัยออเบิร์น เอ็ดเวิร์ดจึงรีบไปหาแซนดร้าที่หอพัก เพื่อบอกรักเธอ แซนดร้าบอกเขาว่า เธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็คือ รุ่นพี่ของเขาในสมัยเรียนนั่นเอง  เอ็ดเวิร์ดบอก ยินดีด้วย และ ขอโทษ แล้วค่อยเดินจากไป แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายังบอกรักเธอ ด้วยวิธีที่เธอไม่คาดคิด อีกหลายครั้ง จนกระทั่ง เช้าวันหนึ่ง เมื่อแซนดร้าเปิดหน้าต่างห้องพัก ก็พบเอ็ดเวิร์ดยืนอยู่ ท่ามกลางทุ่งดอกแดฟโฟดีล ดอกไม้ที่เธอโปรดปราน ขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่ท่ามกลางดอกไม้เหลืองอร่าม คู่หมั้นของแซนดร้าก็เดินมาหาด้วยความโกรธ แซนดร้าขอร้อง ไม่ให้เอ็ดเวิร์ดทำร้ายคู่หมั้นของเธอ เอ็ดเวิร์ดจึงถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว ในที่สุดแซนดร้าก็บอกถอนหมั้น


     เอ็ดเวิร์ด เตรียมจะแต่งงานกับแซนดร้า แต่ในระหว่างที่อยู่ในโรงพยาบาล เอ็ดเวิร์ดได้รับจดหมายเรียกเกณฑ์ทหาร เขาจึงต้องไปรบ เอ็ดเวิร์ดอาสาไปอยู่แนวหน้า เพื่อจะได้กลับไปหาแซนดร้าเร็วขึ้น เขากระโดดร่มลงในเขตของศัตรู เหนือเวทีการแสดง สำหรับสร้างความบันเทิงให้ทหารจีน มีนักร้องสาวจีนคู่แฝดที่ใช้อวัยวะท่อนล่างร่วมกัน ตั้งแต่เอวลงไป กำลังร้องเพลงอยู่ เอ็ดเวิร์ดแอบเข้าไปชิงเอกสารลับทางทหาร แล้วจึงขอให้สาวคู่แฝด ช่วยพาเขาแอบหนีออกไป โดยบอกว่า เขาจะพาทั้งคู่
ไปแสดงที่อเมริกาด้วย แต่ในระหว่างเดินทางกลับ เอ็ดเวิร์ดไม่สามารถส่งข่าวกลับมาได้ กองทัพอเมริกาจึงแจ้งแซนดร้าว่า เขาได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้น ๔ เดือนผ่านไป เอ็ดเวิร์ดก็กลับไปหาแซนดร้าได้อย่างปลอดภัย


     ภรรยาของวิล ถามวิลเกี่ยวกับเรื่องที่เอ็ดเวิร์ดเล่าให้ฟัง วิลบอกว่า ไม่ใช่เรื่องจริง พ่อของเขาโกหก เพื่อกลบเกลื่อนที่นอกใจแม่ ไปมีบ้านที่อื่นอีก ทำให้พ่อไม่ค่อยกลับบ้าน วิลขอให้พ่อเล่าเรื่องจริงบ้าง เอ็ดเวิร์ดจึงรู้สึกไม่พอใจ ที่ลูกไม่เชื่อเขา


     หลังจากกลับไปอยู่กับแซนดร้าได้ไม่นาน เอ็ดเวิร์ดก็ได้งานใหม่ เขาต้องตระเวนขายของไปต่างเมือง จนได้พบกับกวี ที่เคยพบกันในบางหลอน กวีใช้ปืนปล้นธนาคาร และ บอกให้เอ็ดเวิร์ดช่วยปล้น เอ็ดเวิร์ดยอมช่วย เพราะไม่อยากให้ใครบาดเจ็บ ทำให้รู้ว่า ไม่มีเงินเหลืออยู่ในเซฟ ธนาคารกำลังจะล้มละลาย เพราะนายทุนเอาเงินไปเล่นหุ้น เอ็ดเวิร์ดพากวีขึ้นรถหนีไป เขาได้เล่าเรื่องหุ้นให้กวีฟัง กวีจึงตัดสินใจเดินทางไปตลาดหุ้น เมื่อกวีได้กำไรมหาศาลจากหุ้น เขาก็แบ่งเงินส่วนหนึ่ง ส่งมาให้เอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดจึงสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ได้


     วิล รื้อดูเอกสารเก่าๆของพ่อ พบเอกสารมอบกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินให้พ่อ วิลจึงออกเดินทางไปหาเจนนิเฟอร์ ผู้
ซึ่งเขียนเอกสารฉบับนั้น เมื่อถึงบ้านของเจนนิเฟอร์ ที่บางหลอน เขาถามเธอตรงๆว่า มีอะไรกับพ่อของเขาหรือไม่ เจนนิเฟอร์จึงเล่าให้ฟังว่า เอ็ดเวิร์ดเคยมาที่บางหลอน ๒ ครั้ง ครั้งแรกมาเร็วไป ครั้งที่สองมาช้าไป ขณะที่เอ็ดเวิร์ดเดินทางกลับ จากการตระเวนขายของ ฝนตกหนักจนน้ำท่วมสูงมาก พอน้ำลดจนแห้ง รถของเขาก็ติดอยู่บนต้นไม้ เอ็ดเวิร์ดจึงเดินเข้าไปในบางหลอน ซึ่งทรุดโทรมไปจากเดิมมาก เขาจึงซื้อบางหลอน ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆ แล้วทำการปรับปรุงให้ดูดีขึ้น โดยยังให้ทุกคนในหมู่บ้าน ได้อาศัยอยู่ตามเดิม จนเหลืออยู่เพียงบ้านเดียว ที่ยังไม่ยอมขายให้เขา


     เอ็ดเวิร์ด ไปหาเจ้าของบ้านหลังนั้น จึงได้รู้ว่า เป็นบ้านของเจนนิเฟอร์นั่นเอง เอ็ดเวิร์ดจึงเรียกยักษ์ ให้มาช่วยกันซ่อมบ้านของเธอ จากบ้านที่ทรุดโทรมจนเอียง ก็กลายเป็นบ้านที่ดูใหม่ และ สวยงาม เจนนิเฟอร์ขอให้เอ็ดเวิร์ดอยู่กับเธอ แต่เขาปฏิเสธ เพราะว่าเขารักภรรยามาก เจนนิเฟอร์จึงได้เขียนเอกสาร โอนกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินให้กับเขา เมื่อเอ็ดเวิร์ดช่วยบางหลอนเอาไว้ได้ เขาก็จากไป และ ไม่เคยกลับมาอีกเลย เจนนิเฟอร์ก็คือ แม่มดตาแก้ว ในเรื่องเล่า จากจินตนาการของเอ็ดเวิร์ดนั่นเอง


     วิล เดินทางกลับถึงบ้าน แต่ไม่มีใครอยู่ เขาจึงรีบไปโรงพยาบาล พบว่า เอ็ดเวิร์ดเส้นเลือดในสมองแตก ยังไม่รู้สึกตัว วิลจึงอาสาอยู่เฝ้าพ่อ เพื่อให้แม่กับภรรยา ได้กลับไปพักผ่อนบ้าง วิลนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงพ่อ จนเอ็ดเวิร์ดรู้สึกตัวตื่นขึ้น เขาพูดถึงแม่น้ำ แล้วบอกให้วิลเล่าว่า เขาจะตายอย่างไร วิลบอกว่า พ่อยังไม่เคยเล่าเรื่อง ภาพการตาย ที่เห็นจากดวงตาแก้วของแม่มด เอ็ดเวิร์ดถามซ้ำ วิลจึงเริ่มเล่า
เรื่อง จากจินตนาการของเขาว่า ในตอนเช้า อาการของพ่อดีขึ้น วิลจึงเข็นรถเข็นพาพ่อ หนีออกจากโรงพยาบาล แล้วอุ้มพ่อขึ้นรถได้สบาย เพราะพ่อตัวเบามาก วิลรีบขับรถพาพ่อไปแม่น้ำ ระหว่างทางรถติดมาก ยักษ์มาช่วยเปิดทางให้ พอไปถึงริมแม่น้ำ วิลอุ้มพ่อออกจากรถ ทุกๆคนที่พ่อรู้จักมารอส่ง ทุกคนโบกมือให้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่มีใครเศร้าเลย วิลอุ้มพ่อเดินลงน้ำ พ่อคืนแหวนแต่งงานให้แม่ วิลปล่อยพ่อลงน้ำ พ่อกลายเป็นปลายักษ์ แล้วว่ายน้ำจากไป




     เมื่อวิลเล่าเรื่องจบ เอ็ดเวิร์ดก็สิ้นใจอย่างสงบ ในงานศพของเอ็ดเวิร์ด เพื่อนๆจากเรื่องเล่าของเขามากันครบทั้ง ยักษ์ ซึ่งความจริงเป็น ชายร่างสูงใหญ่ผิดปกติเกินกว่า ๒ เมตร เจ้าของคณะละครสัตว์ ซึ่งเป็น ชายร่างเตี้ยธรรมดา สาวจีนคู่แฝด ซึ่งไม่ได้ใช้ร่างกายท่อนล่างร่วมกัน กวี ซึ่งกลายเป็นนักลงทุนจริงๆ ทำให้วิลรู้ว่า ทุกเรื่องที่พ่อเล่ามา ล้วนเป็นความจริง เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของพ่อ ผสานเข้ากับจินตนาการ ช่วยแต้มสีสันให้สดใส ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ ด้วยจินตนาการของลูก เอ็ดเวิร์ด บลูม จึงได้กลายเป็นเรื่องเล่า จนถึงรุ่นหลานสืบต่อไป


แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์ ภาพคมชัด เสียงดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น