วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

The Bourne Supremacy



แนวหนัง (ภาค ๒) : บู๊ ตื่นเต้น เร้าใจ

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ปานกลาง ถึง ค่อนข้างยาก

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างค่อนข้างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     เจสัน บอร์น กับ มารี ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ โกอา ประเทศอินเดีย เจสันมักจะมีอาการปวดหัว เวลาที่มีภาพเหตุการณ์บางอย่างในอดีต ผุดขึ้นมาในสมองของเขา เจสันเริ่มรู้สึกท้อ ที่เขายังจำอดีตไม่ได้ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มารีก็ยังคอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน พาเมล่า หรือ แพม ได้ส่งสายลับ ๒ คนเข้าไปในตึกแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับ อดีตนักการเมืองรัสเซียชื่อ เนสกี้ กับเงิน ๒๐ ล้านเหรียญที่หายไปเมื่อ ๗ ปีก่อน แต่กลับมีนักฆ่าคนหนึ่ง วางระเบิดระบบไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตึก แล้วฆ่าสายลับทั้ง ๒ คน ชิงเอาแฟ้มข้อมูล พร้อมทั้งเงิน ๓ ล้านเหรียญไปให้ ยูริ มหาเศรษฐีธุรกิจน้ำมันชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้จ้างนักฆ่า

     เจสัน วิ่งออกกำลังกายริมชายหาด แล้วแวะตลาด เห็นนักฆ่าซึ่งกำลังถามหาเขา เจสันจึงรีบขับรถไปรับมารีอีกด้านของตลาด นักฆ่าเห็นเข้าพอดี จึงเกิดการขับรถไล่ล่ากัน เจสันบอกให้มารีขับรถแทนเขา ไปยังสะพาน มารีถูกนักฆ่ายิงตายทันที ทำให้รถตกสะพานลงไปในน้ำ เจสันรู้สึกเสียใจมาก ที่ไม่สามารถช่วยมารีไว้ได้ แต่ก็ต้องหลบขึ้นฝั่งไปตามลำพัง เมื่อนักฆ่าไม่เห็นใครโผล่ขึ้นมาจากน้ำ จึงคิดว่า ได้ทำงานสำเร็จแล้ว

     แพม ได้ลายนิ้วมือจากระเบิดที่ไม่ทำงาน เมื่อเทียบลายนิ้วมือ ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็พบว่า ตรงกับปฏิบัติการเทรดสโตน ซึ่งไม่สามารถเปิดดูได้ ส่วนเจสันก็เผาเอกสารต่างๆ แล้วเก็บของ ออกเดินทาง แพมถูกหัวหน้าตำหนิที่ทำงานพลาด เธอจึงขอดูแฟ้มข้อมูลเทรดสโตน เพื่อหาเจ้าของลายนิ้วมือ จนพบว่า เป็นลายนิ้วมือของ เจสัน บอร์น แพมจึงโทร.นัดพบ วอร์ด อดีตหัวหน้าใหญ่ ในปฏิบัติการเทรดสโตน เพื่อขออนุญาตดู แฟ้มข้อมูลเทรดสโตนทั้งหมด วอร์ดจึงเล่าเรื่องของเจสันให้ฟัง แพมคิดว่า เจสันกับอดีตหัวหน้าที่ตายไป ร่วมมือกันฉ้อโกงเงิน ๒๐ ล้านเหรียญ

     เจสัน ใช้พาสปอร์ตที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเนเปิ้ล จึงถูกจับ และ สอบสวน เจสันนั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไร แพมรู้เข้าจึงสั่งลูกน้อง ให้โทร.ไปบอกให้กักตัวเอาไว้ เมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรับโทรศัพท์เสร็จ เจสันก็ลงมืออย่างฉับไว ทำให้เจ้าหน้าที่ฯสลบ แล้วทำสำเนาซิมมือถือของเจ้าหน้าที่ฯ ก่อนจะหลบหนีออกไป เมื่อเจ้าหน้าที่ฯฟื้นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ แพมบอกเจ้าหน้าที่ฯว่า เจสันเคยฆ่าคนไป ๒ คน และ ชิงของสำคัญที่เบอร์ลิน เจสันได้แอบดักฟัง พร้อมทั้งบันทึกการสนทนานี้ไว้ วอร์ดไปตามตัวนิคกี้ มาอธิบายงานที่เคยทำในเทรดสโตน ให้แพมฟัง นิคกี้เล่าว่า เธอมีหน้าที่ประสานงาน และ คอยเฝ้าสังเกตุ อาการผิดปกติทางจิตของนักฆ่าด้วย เธอยังบอกอีกว่า เจสัน บอร์น ไม่ได้พลาดที่ใช้พาสปอร์ตเก่า แต่เขาตั้งใจปรากฏตัวต่างหาก แพมจึงสั่งให้นิคกี้ไปเบอร์ลินด้วยกัน

     นักฆ่าอีกคนกลับถึงบ้าน พบว่า เจสันได้ดักรอเขาอยู่ในบ้าน เจสันถามถึงเทรดสโตน แพม และ เหตุการณ์ในเบอร์ลิน นักฆ่าตอบว่า เทรดสโตนถูกปิดไปนานแล้ว เขาไม่รู้เรื่องแพม และ เบอร์ลิน แต่เขาได้ส่งสัญญาณแจ้งหน่วยงานไปแล้ว เพราะคิดว่า เจสันจะมาฆ่าเขา นักฆ่าฉวยโอกาสที่เจสันเผลอ ทำร้ายเจสัน จึงเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด เมื่อเจสันจัดการนักฆ่าได้แล้ว เขาก็ทำให้แก๊สรั่ว และ เอาหนังสือเสียบลงในเครื่องปิ้งขนมปัง ก่อนออกไป เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งมาถึง หนังสือก็ไหม้พอดี จึงเกิดการระเบิดขึ้น

     หลังจากนั้น เจสันได้โทร.ไปยังโรงแรมต่างๆในเบอร์ลิน เพื่อสืบหาจนรู้ว่า แพมอยู่ที่ไหน แล้วจึงสะกดรอยตามไป จนถึงตึกที่ทำการ แพมสั่งลูกน้องทุกคนให้ช่วยกัน ค้นหาข้อมูลทุกอย่างของ เจสัน บอร์น เจสันซึ่งอยู่บนดาดฟ้าตึกฝั่งตรงข้าม ใช้กล้องเล็งปืนส่องดู แล้วโทร.หาแพม เพื่อถามว่า สั่งคนตามล่าเขาทำไม แพมจึงพูดถึงแฟ้มข้อมูลเนสกี้ ทันใดนั้น ภาพเหตุการณ์เลือนลางในอดีต ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเขาอีกครั้ง เขาจึงบอกแพมว่า อยากเข้าไปพบ แต่ต้องให้นิคกี้ซึ่งรู้จักเขาพาเข้าไป จึงนัดให้นิคกี้ไปรอพบเขา

     นิคกี้ ยืนรอเจสันอยู่ในย่านชุมชน ที่มีการเดินขบวนประท้วง โดยมีคนของแพมปลอมตัว ปะปนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงจำนวนมาก เจสันโทร.บอกให้นิคกี้ขึ้นรถราง แพมจึงสั่งลูกน้องให้ไปพานิคกี้ออกมา แต่เจสันได้พานิคกี้ลงจากรถไปก่อนแล้ว ระหว่างพาเดินลงสถานีรถไฟใต้ดิน เจสันถามนิคกี้ว่า แพมเป็นใคร นิคกี้ตอบไปตามความจริงที่รู้ และ ยังบอกอีกว่า วอร์ดเคยเป็นคนคุมเทรดสโตน เจสันจึงถามถึงภารกิจแรกของเขาที่เบอร์ลิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตหัวหน้า และ เนสกี้ นิคกี้บอกว่า ไม่เคยรู้เรื่องภารกิจที่เบอร์ลินเลย เจสันจึงทิ้งนิคกี้ไว้



     ลูกน้องคนสนิทของวอร์ด พาวอร์ดไปดูจุดที่นักฆ่าวางระเบิด แล้วบอกกับวอร์ดว่า วิธีการแบบนี้ไม่ใช่ฝีมือของ เจสัน บอร์น แน่ๆ วอร์ดจึงฆ่าลูกน้องเสีย เจสันสืบค้นข้อมูลคดีของเนสกี้จากอินเตอร์เน็ต ข่าวระบุว่า เนสกี้ถูกภรรยาฆ่าตาย แล้วฆ่าตัวตายตาม เจสันเริ่มนึกออกบ้างแล้ว จึงไปเช่าห้องโรงแรมที่เคยเกิดเหตุ พนักงานโรงแรมเห็นรูปของเจสันจากแฟกซ์ จึงโทร.แจ้งตามใบประกาศ เจสันเข้าไปดูห้อง ที่เนสกี้ถูกฆ่าตาย ทำให้นึกออกว่า เขาเป็นคนฆ่าเนสกี้ และ ภรรยา

     ในขณะเดียวกัน มีตำรวจมาถึงโรงแรม เจสันจึงรีบหนี แต่ก็ไปเจอตำรวจอีกหลายคน แห่กันมาตามจับเขา เจสันจึงวิ่งขึ้นสะพาน แล้วกระโดดลงเรือที่แล่นผ่านมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย แต่ก็ต้องรีบหนีต่อไป
เจสันใช้ตะขอเกี่ยว โหนใต้สะพาน ปีนกลับขึ้นไปอีกด้าน แล้วขึ้นรถไฟหนีรอดไปได้ แพมเพิ่งมาถึงโรงแรม จึงเข้าไปดูห้องที่เจสันเข้าไป เธอจำได้ว่า เป็นห้องที่เนสกี้ตาย จึงเดาออกว่า เนสกี้ไม่ได้ถูกภรรยาฆ่าตายตามข่าว วอร์ดมาถึงโรงแรมก็รู้ตัวว่า เจสันจำเรื่องเนสกี้ได้แล้ว

     วอร์ด รีบกลับโรงแรมที่พัก เพื่อโทร.บอกยูริให้ฆ่าเจสันอีกครั้ง หลังจากวางสาย วอร์ดก็รู้ว่า เจสันเดินมาข้างหลัง แต่ก็สายเกินกว่าที่จะทำอะไรได้ วอร์ดคิดว่า เขาไม่รอดแน่ จึงสารภาพกับเจสันว่า ที่ต้องใส่ร้าย และ สั่งฆ่าเจสัน ก็เพราะในแฟ้มข้อมูล
เนสกี้นั้น มีหลักฐานเชื่อมโยงวอร์ดกับคดีเนสกี้อยู่ด้วย เจสันได้อัดเทป ตั้งแต่การสนทนาทางโทรศัพท์ จนถึงคำสารภาพนั้นไว้แล้ว เจสันบอกว่า มารีไม่ต้องการให้เขาฆ่าใคร จึงปล่อยวอร์ดไว้ตามลำพัง ในเวลาต่อมา แพมได้เข้าไปหาวอร์ดในห้อง พบว่า วอร์ดกำลังถือปืนเล็งมาที่ตัวเธอ วอร์ดได้สารภาพผิด ก่อนยิงตัวตายต่อหน้าแพม หลังจากนั้นไม่นานนัก แพมก็ได้รับเทปคำสารภาพม้วนนั้น

     แพม เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ในสถานีรถไฟ จึงรู้ว่า เจสันกำลังเดินทางไปกรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย ยูริได้ติดต่อนักฆ่าคนเดิม บอกให้ทำงานต่อให้สำเร็จ เมื่อถึงมอสโคว เจสันเดินทางไปยังบ้านลูกสาวของเนสกี้ แต่ไม่มีใครอยู่ เขาจึงถามคนแถวนั้นจนรู้ว่า เธอได้ย้ายไปนานแล้ว ทันใดนั้น เจสันก็รู้ตัวว่า ตำรวจรัสเซียกำลังตามมาจับเขา เจสันจึงรีบหนีไป นักฆ่าเห็นเจสันจากด้านหลัง จึงยิงถูกเจสันจนล้มลง แต่พอจะยิงซ้ำ ก็มีตำรวจเข้าจับนักฆ่า เจสันจึงฉวยโอกาสหลบหนีไป เมื่อตำรวจค้นตัวนักฆ่าก็พบ บัตรประจำตัวตำรวจ จึงปล่อยไป

     เจสัน เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อหยิบของที่ใช้ในการทำแผล แล้วเดินออกทางด้านหลัง ส่วนนักฆ่าก็กำลังตามมาติดๆ เจสันจึงขโมยรถแท็กซี่ขับหนีไป นักฆ่ารีบขับรถตาม จึงเกิดการไล่ล่ากันบนท้องถนน จนมีการเฉี่ยวชนกันมากมาย เจสันขับรถหนีทั้งนักฆ่า และ ตำรวจ พร้อมกับต้องทำแผลที่ไหล่ซ้ายไปด้วย เจสันสามารถสลัดพ้นจากตำรวจ เข้าไปในอุโมงค์ใต้ดิน แต่นักฆ่าไล่กวดตามมาทัน เจสันจึงขับชนเข้าด้านข้างรถของนักฆ่า แล้วหมุนพลิกดันรถนักฆ่าไปข้างหน้า จนชนเข้ากับสันกำแพง ที่แบ่งเป็นทางแยก เจสันถือปืนลงมา เหมือนจะยิงนักฆ่าที่บาดเจ็บสาหัส แต่เขาไม่ทำ แล้วก็เดินจากไป หลังจากนั้น ยูริก็ถูกตำรวจจับกุม โดยฝีมือของแพม

     ลูกสาวของเนสกี้ กลับถึงบ้านก็พบว่า มีชายคนหนึ่งถือปืนนั่งรอเธออยู่ เจสันบอกกับเธอว่า แม่ของเธอไม่ได้ฆ่าพ่อ
ของเธอตาย แล้วฆ่าตัวตายตามข่าว ความจริงก็คือ เขาเป็นคนฆ่าทั้งคู่ เดิมทีนั้นเจสันจะต้องฆ่าเนสกี้เพียงคนเดียว แต่แม่ของเธอเดินเข้ามาพอดี จึงต้องเปลี่ยนแผน เมื่อสารภาพบาปเสร็จแล้ว เจสันก็เดินจากไป

     ที่นิวยอร์ค เจสันโทร.หาแพม เพราะรู้ว่า เธอยังคงตามหาเขาอยู่ แพมบอกว่า ต้องการที่จะขอบคุณสำหรับเทป และ ขอโทษต่อเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น ก่อนจะจบการสนทนา แพมยังบอกอีกว่า ชื่อที่แท้จริงของเจสันก็คือ เดวิด เว็บบ์ และ ยังบอกวันเกิดของเขาอีกด้วย

แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์ ค่าย Catalyst ภาพคมชัด เสียงดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น