วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Departures



แนวหนัง (ญี่ปุ่น) : ชีวิต (แฝงสัจธรรม) เพลง

ระดับความเข้าใจเนื้อเรื่อง : ง่าย ถึง ค่อนข้างง่าย

บรรยายเนื้อเรื่อง : อย่างละเอียด (คำเตือน - มีการเฉลยตอนสำคัญ)

     ไดโกะ ชายหนุ่มวัย ๓๖ ปี ได้ย้ายจากเมืองหลวงมาอยู่ในชนบท และ ทำงานเป็นพนักงานบริษัทรับทำศพมาได้ ๒ เดือนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำใจให้ชินกับงานที่ทำอยู่ได้สักที ในขณะที่เขากำลังเช็ดทำความสะอาดร่างกายของผู้ตาย ที่มีใบหน้าสวยงามรายหนึ่ง เขาก็ต้องสะดุดกับ อะไรบางอย่างบนร่างกายของสาวสวย เขาจึงได้รู้ว่า ผู้ตายไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างที่เขาเคยคิด

     ย้อนกลับไปเมื่อ ๒ เดือนก่อนหน้านี้ ไดโกะ เคยมีอาชีพเป็นนักดนตรี เล่นเชลโล่อยู่ในวงออเคสตร้าวงหนึ่ง ซึ่งเพิ่งจะถูกยุบวงไป แม้จะเป็นงานที่เขารัก แต่เขาก็รู้ตัวดีว่า ด้วยฝีมือการเล่นเชลโล่ที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก เขาคงจะหางานแบบเดิมในเมืองหลวงไม่ได้อีกแล้ว เขาจึงพา มิกะ ภรรยาของเขาซึ่งเป็นนักออกแบบเว็บไซด์ ย้ายไปอยู่ที่บ้านเกิดของเขาในชนบท ซึ่งแม่ของเขาทิ้งไว้ให้ หลังเสียชีวิตเมื่อ ๒ ปีก่อน

     ไดโกะ (หรือ ไดจัง) เห็นประกาศรับสมัครงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือในการเดินทาง เขาคิดว่า คงเป็นงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว (ไกด์) จึงโทร.ไปสมัคร และ ไปตามนัดสัมภาษณ์ พอไปถึงบริษัทNK (ย่อมาจาก โนคัง) เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะประธานบริษัทฯพูดกับเขาแค่ไม่กี่ประโยค ก็บอกรับเขาเข้าทำงานแล้ว โดยให้เงินเดือนเริ่มต้นถึงห้าแสนเยน แถมยังให้เงินล่วงหน้าแก่เขาอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานเลย นอกจากนั้นงานที่ว่า ยังเป็นงานทำศพ (โนคัง) อีก เขาจึงกลับบ้านไป โดยไม่กล้าบอกมิกะว่าเขาทำงานอะไร

     วันรุ่งขึ้น ไดโกะได้รับคำสั่งจากท่านประธาน ให้ไปยังสตูดิโอถ่ายหนังแห่งหนึ่ง โดยให้เขาเป็นนายแบบ (ศพ) สำหรับการถ่ายทำ DVD เพื่อการค้า และ ในวันถัดมา ท่านประธานก็พาเขาไปช่วยจัดการศพหญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งนอนตายอยู่ในบ้านเพียงลำพังมา ๒ สัปดาห์แล้ว นั่น...เป็นครั้งแรก ที่เขาได้เห็นคนตายจริงๆ หนำซ้ำศพยังอยู่ในสภาพที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง จนเขาไม่สามารถทนได้อีกด้วย ทำให้เขาไม่อยากทำงานนี้อีกต่อไป

     ระหว่างเดินทางกลับบ้าน กลุ่มเด็กนักเรียนสาวที่อยู่บนรถเมล์คันเดียวกัน แอบนินทากันว่า ตัวของไดโกะมีกลิ่นเหม็น เขาจึงรีบลงจากรถ และ เข้าไปยังโรงอาบน้ำเก่าแก่ ที่เขาเคยมากับพ่อแม่บ่อยๆในสมัยเด็ก เขาได้พบกับคุณลุงลูกค้าขาประจำ หลังจากอาบและแช่น้ำร้อนอย่างสบายใจแล้ว เขาก็ได้พบกับคุณป้าเจ้าของโรงอาบน้ำ ซึ่งกำลังถกเถียงกับลูกชายที่บอกให้ขายโรงอาบน้ำไปเสีย ทั้งสองคนจำไดจังได้ จึงทักทายเขาตามประสาคนคุ้นเคยที่ไม่ได้พบกันมานาน คุณป้ายังบอกให้เขาพาภรรยาไปโรงอาบน้ำบ้าง จะได้รู้จักกัน ซึ่งเขาก็ได้พามิกะไปแนะนำให้คุณป้ารู้จัก และ ทำความคุ้นเคยกันในภายหลัง

     ในคืนเดียวกันนั้น ไดโกะเกิดความรู้สึกอยากเล่นเชลโล่อีก เขาจึงค้นหาเชลโล่ตัวเก่าที่พ่อของเขาเคยซื้อให้ มันเป็นเชลโล่ขนาดเล็กสำหรับเด็กตัวแรกที่เขาใช้หัดเล่น นั่นทำให้เขาได้พบหินก้อนหนึ่งซึ่งเก็บไว้ด้วยกัน ก้อนหินที่พ่อเคยให้เขาเอาไว้ มันทำให้เขานึกถึงสมัยที่เขายังเด็ก วันที่เขากับพ่อเก็บก้อนหินริมลำธารมาแลกกัน แต่เขาจำใบหน้าของพ่อไม่ได้ เพราะพ่อได้ทิ้งเขากับแม่ หนีตามสาวเสริฟในบาร์ของพ่อไป ตั้งแต่เขาอายุเพียง ๖ ขวบ เหลือเพียงความทรงจำอันเจ็บปวด ที่ยังคงอยู่ในใจของเขาตลอดมา

     วันต่อมา ขณะที่ไดโกะกำลังยืนอยู่บนสะพาน มองดูปลาแซลม่อนว่ายทวนกระแสน้ำ เพื่อขึ้นไปวางไข่ยังแหล่งกำเนิด ก่อนจะต้องจบชีวิตลง เขาก็ได้ยินเสียงเรียกของท่านประธาน บอกให้เขาขึ้นรถไปด้วย เขาขึ้นรถไปอย่างไม่เต็มใจนัก เมื่อไปถึงบ้านที่จะต้องทำศพ พวกเขาก็ถูกสามีของผู้ตายต่อว่าที่ไปถึงช้า และพูดจาดูถูกว่า หากินกับคนตาย ท่านประธานกล่าวขอโทษ แล้วรีบจึงเข้าไปทำศพอย่างปราณีตบรรจง โดยมีไดโกะนั่งดูอยู่ข้างๆ ท่านประธานได้แต่งหน้าหญิงผู้ตายให้ดูสวยงาม สดใส ราวกับยังมีชีวิตอยู่ ก่อนจะบรรจุลงในโลงศพ เมื่อเสร็จงานแล้ว สามีของผู้ตายกล่าวขอโทษท่านประธานกับไดโกะ ที่พูดไม่ไดีในตอนแรก และยังบอกอีกว่า เขาไม่เคยเห็นภรรยาของเขาสวยขนาดนี้มาก่อนเลย

       นั่นเป็นครั้งแรก ที่ทำให้ไดโกะเริ่มเห็นคุณค่าของการเป็นโนคัง

     แต่ในระหว่างเดินกลับบ้าน  ไดโกะได้พบกับเพื่อนเก่า (ลูกเจ้าของโรงอาบน้ำ) กับภรรยาและลูกสาวของเขา เขาแสดงท่าทีเมินเฉยต่อไดโกะ แถมยังบอกให้เขาหางานอื่นทำ และเมื่อเขากลับถึงบ้าน ก็พบว่า มิกะกำลังนั่งดู DVD ที่เขาเคยเป็นนายแบบให้ท่านประธานแสดงการทำศพ เธอจึงขอร้องให้เขาเลิกทำงานนี้ เพราะรู้สึกอับอายที่สามีทำอาชีพต่ำต้อย น่ารังเกียจ ไม่มีใครอยากทำ แต่ไดโกะไม่ยอมเลิก มิกะจึงจากไป


     ไดโกะย้ายมาอยู่บ้านเกิดได้ ๒ เดือนแล้ว เขาผ่านการทำงานเป็นโนคังมาหลายงาน ได้พบเห็นญาติผู้ตายจำนวนมาก ที่มีอารมณ์หลากหลายแตกต่างกันไป บ้างก็เอาแต่โศกเศร้าเสียใจ บ้างก็ทำใจได้ บ้างก็ยิ้มก่อนกล่าวคำอำลาผู้ตาย หลังเสร็จจากงานแต่ละครั้ง ไดโกะชอบที่จะปลดปล่อยอารมณ์ ด้วยการนั่งเล่นเชลโล่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของชนบท

     แล้วในวันหนึ่ง เมื่อไดโกะกลับมาถึงบ้านก็พบว่า มิกะได้กลับมารอเขาอยู่ในบ้านแล้ว เธอบอกเขาว่า เธอกำลังตั้งครรภ์ และ ยังขอร้องให้เขาเลิกอาชีพทำศพ เพื่อเห็นแก่อนาคตของลูกที่จะต้องอับอายที่มีพ่อเป็นโนคัง ในขณะที่เขากำลังพูดอะไรไม่ออก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็บอกกับเธอว่า คุณป้าเจ้าของโรงอาบน้ำเสียชีวิตแล้ว

     ในขณะที่ไดโกะกำลังทำศพคุณป้าที่โรงอาบน้ำ มิกะ และ ลูกชายของคุณป้า ต่างก็เฝ้ามองการทำงานของไดโกะ ที่ปราณีตบรรจง เปี่ยมไปด้วยความเคารพต่อผู้ตาย เวลานี้เอง ทั้งสองคนที่เคยดูถูกงานโนคัง ก็เริ่มรู้สึกถึงคุณค่า และ เห็นความสำคัญของงานนี้

     ในวันเผาศพคุณป้า ไดโกะ ได้พบกับคุณลุงลูกค้าประจำของโรงอาบน้ำ คุณลุงซึ่งมีหน้าที่ในการเผาศพได้บอกกับ ลูกชายของคุณป้า และ ไดโกะ ว่า ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด แต่เป็นการก้าวไปสู่อีกประตูหนึ่งเท่านั้น ยังมีโอกาสที่พวกเราจะได้พบกันอีก

     เสร็จจากพิธีเผาศพคุณป้า ไดโกะ และ มิกะ แวะชื่นชมธรรมชาติริมลำธาร ระหว่างทางกลับบ้าน ไดโกะเก็บก้อนหินก้อนหนึ่ง วางบนมือของมิกะ แล้วเล่าว่า ในสมัยที่มนุษย์ยังไม่มีภาษาสำหรับใช้ในการสื่อสารกัน มีการใช้ก้อนหินเพื่อเป็นสื่อบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อกัน ก้อนหินที่ผิวไม่เรียบ หมายถึง ผู้ให้กำลังห่วงใยผู้รับ ก้อนหินที่ผิวเรียบ หมายถึง ผู้ให้กำลังสบายดี พ่อของเขาเคยสอนไว้ ก่อนจะทิ้งเขากับแม่ไป

     ในวันหนึ่ง ขณะที่มิกะกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน เธอก็ได้รับจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงแม่ของไดโกะ เธอจึงเปิดอ่านดูจนรู้ว่า เป็นจดหมายแจ้งข่าวการตายของพ่อของไดโกะ เมื่อไดโกะรู้ข่าวนี้จากเพื่อนร่วมงาน (เพราะไดโกะลืมเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย) เขารู้สึกสับสน โกรธแค้น และ ประหลาดใจ เพราะไม่เคยคิดว่า จะได้ข่าวจากพ่อของเขาอีก เขาปฏิเสธที่จะไปดูศพพ่อ แม้ว่าเพื่อนร่วมงานจะขอร้องให้เขาไป เพราะเธอก็เคยหนีตามผู้ชาย โดยทอดทิ้งลูกไว้ที่เมืองอื่น เช่นเดียวกับพ่อของเขา

   แต่ในที่สุด ไดโกะก็เปลี่ยนใจ เขาจึงขับรถที่ท่านประธานให้ยืม พามิกะไปพบพ่อของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ในขณะที่เขากำลังทำศพพ่อด้วยความอาลัยยิ่ง เขาก็พบว่า มือของพ่อกำก้อนหินที่เขาเคยให้พ่อไว้เมื่อ ๓๐ ปีก่อน ทำให้เขารู้ว่า พ่อยังคงคิดถึงเขาจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เขาได้วางหินก้อนนั้นลงบนมือของมิกะ แล้วกุมมือของมิกะไปไว้แนบท้องของเธอ เพื่อส่งต่อความรู้สึกไปยังลูกในท้อง เขาได้ทำหน้าที่ของลูกเป็นครั้งสุดท้าย และ เขาจะต้องทำหน้าของพ่อที่ดีต่อไป

แผ่นหนัง : DVD ลิขสิทธิ์มี ๒ ค่าย แมงป่อง ภาพคมชัด เสียงดี, CAP ภาพคมชัด เสียงดีมาก (DTS) แต่เล่นไม่ได้กับเครื่องเล่นบางรุ่น และ มีตัวหนังสือบรรยายภาษาอังกฤษแบบเลือกเอาออกไม่ได้ติดมาด้วย ทำให้ตัวหนังสือบรรยายไทยต้องขึ้นไปอยู่ด้านบน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น